ประเทศไทย: 20 ปีของความอยุติธรรมสำหรับเหยื่อการสังหารหมู่ที่ตากใบ
ความล้มเหลวในการฟ้องคดีต่อเจ้าหน้าที่ซึ่งรับผิดชอบต่อความตาย การบาดเจ็บ

ความพยายามในการฟื้นฟูประชาธิปไตยของไทย ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในปี 2567 เพื่อยุบพรรคก้าวไกลที่เป็นพรรคฝ่ายค้าน และการถอดถอนนายเศรษฐา ทวีสินออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รัฐบาลใหม่ของนส. แพทองธาร ขินวัตร สัญญาว่าจะปฏิรูปครั้งใหญ่ ตอนที่รณรงค์หาเสียงให้พรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งเมื่อปี 2566 แต่ยังไม่ได้ทำตามสัญญา ทางการยังคงจำกัดสิทธิขั้นพื้นฐาน โดยเฉพาะเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุม โดยใช้กฎหมายหมิ่นประมาทกษัตริย์ ข้อหายุยงปลุกปั่น และพรบ.คอมพิวเตอร์ฯ ทางการไม่สามารถดำเนินงานเพื่อคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชนให้ปลอดพ้นจากการถูกตอบโต้โดยหน่วยราชการและบริษัท ทั้งยังขาดการบังคับใช้กฎหมายเพื่อปราบปรามการทรมานและการบังคับให้สูญหาย ในขณะที่การลอยนวลพ้นผิดจากการปฏิบัติมิชอบ โดยเฉพาะในในจังหวัดชายแดนใต้ ยังเกิดขึ้นต่อไป ผู้ลี้ภัยและผู้แสวงหาที่ลี้ภัยยังคงเสี่ยงต่อการจับกุมและการเนรเทศ
ความล้มเหลวในการฟ้องคดีต่อเจ้าหน้าที่ซึ่งรับผิดชอบต่อความตาย การบาดเจ็บ
ความจำเป็นในการรับรองอัตลักษณ์ทางเพศตามกฎหมายของประเทศไทย
บริษัทปตท. ที่ผลิตน้ำมันและก๊าซควรตัดความสัมพันธ์กับบริษัทของกองทัพ และพันธมิตรที่ปฏิบัติมิชอบ
ยุติการกักตัว อนุญาตให้ผู้ลี้ภัยได้รับการจำแนกสถานะ
นายกรัฐมนตรีแพทองธารควรยุติการปราบปราม เริ่มการปฏิรูปด้านกฎหมาย
ต้องสอบสวนการสังหาร ลิม กิมยาในกรุงเทพฯ อย่างเร่งด่วน
นักเคลื่อนไหวทางการเมืองฝ่ายค้านเสี่ยงจะถูกดำเนินคดีอย่างฉ้อฉลในกัมพูชา
ความล้มเหลวในการฟ้องคดีต่อเจ้าหน้าที่ซึ่งรับผิดชอบต่อความตาย การบาดเจ็บ
อี ควิน เบดั๊บเสี่ยงจะตกเป็นเหยื่อของการทรมาน, การควบคุมตัวโดยพลการ
ยุติการสนับสนุนการปราบปรามข้ามชาติของประเทศเพื่อนบ้าน
ต้องมีการปฏิรูปเพื่อยุติการดำเนินคดีที่ไม่เป็นธรรม, “การบังคับให้สูญหาย”, การส่งกลับผู้ลี้ภัย