Skip to main content

ประเทศไทยอนุญาตให้ผู้ลี้ภัยชาวเมียนมาในค่ายที่พักพิงทำงานได้ตามกฎหมาย

นับเป็นผลดีอย่างมากต่อการพึ่งพาตนเองของผู้ลี้ภัย รวมทั้งเศรษฐกิจไทย

ผู้ลี้ภัยที่ค่ายแม่หละ อำเภอแม่สอดประเทศไทย 5 มีนาคม 2568 © 2025 Valeria Mongelli/Anadolu via Getty Images

วันที่ 26 สิงหาคม คณะรัฐมนตรีของประเทศไทยให้ความเห็นชอบต่อมาตรการ ที่อนุญาตให้ผู้ลี้ภัยชาวเมียนมาที่อาศัยอยู่ในค่ายที่พักพิงตามแนวพรมแดน สามารถทำงานได้ตามกฎหมาย สำหรับหลายคน ถือเป็นครั้งแรกในชีวิตที่จะได้รับการจ้างงานอย่างเป็นทางการ 

ผู้ลี้ภัยประมาณ 108,000 คนอาศัยอยู่ในที่พักพิงชั่วคราวเก้าแห่ง ซึ่งรองรับประชาชนที่หลบหนีมาจากการถูกปฏิบัติมิชอบของกองทัพเมียนมานับแต่ทศวรรษ 1980 ประชากรเกือบครึ่งหนึ่งในนั้นเกิดในค่าย 

ผู้ที่มีสิทธิได้รับใบอนุญาตทำงานใหม่ รวมถึงผู้ลี้ภัยประมาณ 80,000 คน ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนกับรัฐบาลไทย โดยในจำนวนนี้มีอยู่ราว 42,000 คนที่มีอายุในวัยทำงาน ทั้งยังมีข้อกำหนดให้ผู้ลี้ภัยต้องขออนุญาตเพื่อเดินทางออกจากที่พักพิง และขอใบอนุญาตทำงานที่จะมีอายุไม่เกินหนึ่งปี 

ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา รัฐบาลไทยสั่งห้ามไม่ให้ผู้ลี้ภัยในค่ายทำงานได้ตามกฎหมาย ห้ามไม่ให้เดินทางได้อย่างเสรี หรือไม่สามารถเข้าถึงบริการสาธารณะ ทำให้พวกเขามักต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากต่างประเทศ ความยากลำบากในค่ายได้เพิ่มขึ้นอย่างมากในปีนี้ หลังจาก รัฐบาลสหรัฐฯ สั่งตัดงบช่วยเหลือ ลงอย่างมาก รวมทั้งเงินช่วยเหลือด้านอาหารและการดูแลสุขภาพ ส่งผลให้มีการตัดลดงบช่วยเหลือด้านอาหารแต่ละเดือนจาก 2.3 เหรียญเป็นศูนย์เหรียญ 

ในเดือนกรกฎาคม เราได้พูดคุยกับผู้ลี้ภัยแปดคนซึ่งระบุถึงความรู้สึกหมดหวังและเป็นผู้ถูกลืม หลังต้องถูกจำกัดให้อยู่เฉพาะในค่ายมาหลายทศวรรษ ทั้งหมดแสดงความประสงค์ที่จะทำงานนอกค่าย หากได้รับอนุญาต “หากพวกเราสามารถขอรับสถานะบางอย่างเพื่อให้ได้รับความคุ้มครอง สามารถพำนักอาศัยและทำงานได้อย่างเสรี และสามารถหารายได้ได้ เราก็จะไม่เป็นภาระของประเทศไทยหรือของประชาคมโลกอีกต่อไป” ผู้ลี้ภัยคนหนึ่งกล่าว 

มติคณะรัฐมนตรีครั้งนี้นับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญไม่เฉพาะสำหรับผู้ลี้ภัย หากยังรวมถึงแรงงานของไทยซึ่งอยู่ในช่วงขาดแคลน เนื่องจากภาวะ ประชากรสูงวัย และ การอพยพกลับ ของแรงงานจากกัมพูชาอย่างน้อย 100,000 คนภายหลังการปะทะกันที่พรมแดน

ทางการไทยควรดูแลให้กระบวนการขอรับใบอนุญาต เป็นไปอย่างโปร่งใส เข้าถึงได้ และรวดเร็ว โดยให้ความคุ้มครองเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแสวงหาประโยชน์ หรือการรีดไถ โดยนายหน้าหากมีการดำเนินงานอย่างเหมาะสม นโยบายให้ทำงานครั้งนี้จะช่วยให้ผู้ลี้ภัยพึ่งตนเองได้และเป็นอิสระ ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจในท้องถิ่น และเป็นแม่แบบการเคารพสิทธิและการพัฒนาสำหรับประชากรผู้ลี้ภัยกลุ่มอื่น ๆ ทั้งในประเทศไทยและในภูมิภาค

“เนื่องจากพวกเรามีอายุน้อย เราจึงต้องการหารายได้ เราต้องการใช้ประโยชน์จากความรู้และทักษะของเรา” ผู้ลี้ภัยอีกคนหนึ่งบอก “ถ้ามีโอกาสให้พวกเราเดินทางออกจากค่ายไปทำงาน ไปหางานทำ และช่วยเลี้ยงดูครอบครัวของเราได้ เราก็อยากจะทำแบบนั้น”

GIVING TUESDAY MATCH EXTENDED:

Did you miss Giving Tuesday? Our special 3X match has been EXTENDED through Friday at midnight. Your gift will now go three times further to help HRW investigate violations, expose what's happening on the ground and push for change.