Skip to main content

ประเทศไทย: การรื้อฟื้นโทษประหารเป็นการก้าวถอยหลังครั้งสำคัญ

รัฐบาลไทยได้ประหารชีวิตนักโทษหลังพักการประหารชีวิตมาเก้าปี

ทางการไทยประหารชีวิตชายอายุ 26 ปี ด้วยการฉีดยาเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2561 นับเป็นการประหารชีวิตของประเทศเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2552 © 2018 Thai Rath
(นิวยอร์ก)– รัฐบาลไทย ควรยุติการประหารชีวิตเพิ่มเติม และดำเนินการตามความตกลงในเชิงปฏิบัติที่จะงดเว้นการบังคับใช้​โทษประหารอีกครั้ง ฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าวในวันนี้ ทางการไทยประหารชีวิตชายอายุ 26 ปี ด้วยการฉีดยาเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2561 นับเป็นการประหารชีวิตของประเทศเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2552

“การหวนกลับมาใช้โทษประหารของประเทศไทย นับเป็นการก้าวถอยหลังครั้งสำคัญด้านสิทธิมนุษยชน” แบรด อดัมส์ (Brad Adams) ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชีย ฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าว “เท่ากับว่าคำสัญญาที่รัฐบาลไทยให้ไว้หลายครั้งที่จะมุ่งหน้าไปสู่การยกเลิกโทษประหาร เป็นเพียงคำสัญญาที่ว่างเปล่า”

กรมราชทัณฑ์ระบุว่าได้ประหารชีวิตนายทวีศักดิ์ หลงจิ ซึ่งถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นอย่างทารุณเมื่อหกปีที่แล้ว โดยอ้างว่าเป็นการสะท้อนจุดยืนของรัฐบาลไทยที่ “เน้นการปกป้องสังคมและพลเมืองส่วนใหญ่ให้พ้นจากการตกเป็นเหยื่ออาชญากรรม มากกว่าเน้นสิทธิเสรีภาพของปัจเจกบุคคลที่กระทำผิดกฎหมาย” และเป็นการส่งสัญญาณเตือนว่าผู้ก่ออาชญากรรมร้ายแรงจะได้รับโทษอย่างรุนแรง การตัดสินใจครั้งนี้ถือว่าตรงข้ามกับแนวปฏิบัติที่พักการใช้โทษประหารของไทย ซึ่งได้ดำเนินสืบมาในช่วงเก้าปีที่ผ่านมา และยังมีการนำพันธกิจนี้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติด้วย

ฮิวแมนไรท์วอทช์ต่อต้านโทษประหารในทุกประเทศและไม่ว่าในพฤติการณ์ใด เนื่องจากเป็นการกระทำที่โหดร้าย 

จากข้อมูลของกรมราชทัณฑ์ จนถึงเดือนเมษายนมีนักโทษเด็ดขาดที่ต้องโทษประหารอยู่จำนวน 517 คน (ชาย 415 คนและหญิง 102 คน) ส่วนใหญ่มีความผิดในคดียาเสพติด ชะตากรรมของคนเหล่านี้ซึ่งได้พยายามขอเปลี่ยนโทษกำลังเสี่ยงอันตราย ฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าว

ที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติได้เรียกร้องอย่างต่อเนื่องให้ประเทศต่าง ๆ จัดทำแนวปฏิบัติเพื่อพักการใช้โทษประหาร โดยให้มีการควบคุมการใช้โทษประหารอย่างต่อเนื่อง และลดฐานความผิดสำหรับโทษประหาร ทั้งนี้โดยมีความมุ่งหมายเพื่อนำไปสู่การยกเลิกโทษประหารในที่สุด นอกจากนั้น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ และผู้ชำนาญการแห่งสหประชาชาติด้านการสังหารโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ได้ประณามอย่างชัดเจนต่อการบังคับใช้โทษประหารในคดียาเสพติด

“มีหลักฐานชัดเจนทั่วโลกว่า โทษประหารไม่ส่งผลในการแก้ปัญหาอาชญากรรม และการปฏิบัติที่ทารุณโหดร้ายเช่นนี้ไม่เหมาะสมกับสังคมสมัยใหม่” อดัมส์กล่าว “ประเทศไทยจึงควรยุติการประหารชีวิตทั้งหมดและให้ยกเลิกโทษประหารอย่างถาวร”

GIVING TUESDAY MATCH EXTENDED:

Did you miss Giving Tuesday? Our special 3X match has been EXTENDED through Friday at midnight. Your gift will now go three times further to help HRW investigate violations, expose what's happening on the ground and push for change.