Skip to main content

ขอให้ยกเว้นการดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองกับผู้เข้ารับการคัดกรองตามกลไกคัดกรองแห่งชาติ

นายเศรษฐา ทวีสิน
นายกรัฐมนตรีไทย
ทำเนียบรัฐบาล
เลขที่ 1 ถนนนครปฐม
เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300
 

สำเนาถึง

1. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

2. นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ 

3. นายทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

4. พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

5. คณะอนุกรรมาธิการศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับผู้ลี้ภัยและผู้หนีภัยการสู้รบตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา สภาผู้แทนราษฎร

6. คณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาหาแนวทางการแก้ไขปัญหาแบบยั่งยืนต่อการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ สภาผู้แทนราษฎร
 

12 ธันวาคม 2566

 

เรื่อง: ขอให้ยกเว้นการดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองกับผู้เข้ารับการคัดกรองตามกลไกคัดกรองแห่งชาติ

เรียน นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน
 

พวกเรา ตามที่ได้ลงชื่อแนบท้ายมากับจดหมายฉบับนี้ เขียนจดหมายถึงท่านในวันนี้เกี่ยวกับการดำเนินการตามกลไกคัดกรองระดับชาติ (National Screening Mechanism) เพื่อให้สถานะ “ผู้ได้รับการคุ้มครอง” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราขอให้ท่านและคณะรัฐมนตรีใช้อำนาจตามมาตรา 17 ของพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 เพื่อยกเว้นให้บุคคลที่ขอรับ หรือเข้ารับการคัดกรองปลอดพ้นจากการจับกุม การควบคุมตัว และการดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง การดำเนินงานเช่นนี้จะช่วยอุดช่องว่างระหว่างตัวหลักการกลไกคัดกรองฯ ในการคัดกรองและกำหนดสถานะของ “ผู้ได้รับการคุ้มครอง” ให้กับผู้ที่มีคุณสมบัติ และเป้าประสงค์ของพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองที่ถือว่าผู้เข้าเมืองอย่างผิดปกติในประเทศไทยเป็นอาชญากรที่จะต้องถูกจับกุม ควบคุมตัว และส่งกลับ 

ก่อนการประชุมเวทีผู้ลี้ภัยโลกที่กรุงเจนีวาที่จะถึงนี้ เราคาดหวังว่าประเทศไทยจะให้พันธสัญญาที่จะดำเนินงานตามข้อตกลงโลกว่าด้วยเรื่องผู้ลี้ภัย (GCR) และเราคาดหวังว่า การดำเนินการเพื่อยกเว้นบุคคลที่ประสงค์จะเข้ารับการคุ้มครองตามกลไกคัดกรองฯ ให้ปลอดพ้นจากการถูกดำเนินคดี จะเป็นการส่งสัญญาณถึงพันธสัญญาของประเทศไทยที่มีต่อกรอบความร่วมมือตามข้อตกลงโลกว่าด้วยเรื่องผู้ลี้ภัย

กลไกคัดกรองฯ จัดทำขึ้นตาม “ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการคัดกรองคนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักร และไม่สามารถเดินทางกลับประเทศอันเป็นภูมิลำเนาได้ พ.ศ. 2562” (ระเบียบกลไกคัดกรองฯ) โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2562 ตามระเบียบดังกล่าว รัฐบาลจะจัดทำกลไกคัดกรองฯ เพื่อให้สถานะ “ผู้ได้รับการคุ้มครอง” กับพลเมืองต่างชาติในประเทศไทย ซึ่ง “ไม่สามารถหรือไม่สมัครใจที่จะเดินทางกลับไปยังประเทศอันเป็นภูมิลำเนาของตน เนื่องจากมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าจะได้รับอันตรายจากการถูกประหัตประหารตามที่คณะกรรมการ (คัดกรอง) กำหนด” ในวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ออก “ประกาศคณะกรรมการพิจารณาคัดกรองผู้ได้รับการคุ้มครอง เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการพิจารณาคัดกรอง คำขอเป็นผู้ได้รับการคุ้มครอง” (ประกาศกลไกคัดกรองฯ) ในราชกิจจานุเบกษา เป็นสัญญาณว่ากลไกคัดกรองฯ พร้อมที่จะรองรับผู้เข้ารับการคัดกรองในวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2566 เป็นต้นไป

ถึงแม้ข้อ 15 ของระเบียบว่าด้วยกลไกคัดกรองฯ จะกำหนดให้ชะลอการส่งกลับบุคคลที่ขอรับสถานะ “ผู้ได้รับการคุ้มครอง” แต่ระเบียบไม่ได้ยกเว้นผู้เข้ารับการคัดกรองจากการถูกดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง นอกจากนั้น เนื่องจากสถานะทางกฎหมายที่ด้อยกว่าของระเบียบว่าด้วยกลไกคัดกรองฯ เมื่อเปรียบเทียบกับพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง ในสถานการณ์ที่เป็นอยู่ย่อมทำให้ผู้เข้ารับการคัดกรองอาจถูกจับกุม ควบคุมตัว และดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง ก่อนที่จะได้รับการพิจารณาตามกระบวนการของกลไกคัดกรองฯ ด้วยซ้ำ หลักการเช่นนี้ไม่เพียงขัดแย้งต่อเป้าหมายและเจตนารมณ์ที่ระบุไว้ของกลไกคัดกรองฯ หากยังทำให้ผู้ที่ประสงค์จะเข้ารับการคัดกรองเกิดความลังเลและขาดแรงจูงใจที่จะดำเนินการตามกลไกดังกล่าว นอกจากนี้ ยังทำให้เกิดภาระที่ไม่จำเป็นต่อศาลและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับระบบกักตัวคนเข้าเมืองของประเทศไทยทั้งหมด ซึ่งต้องมาดำเนินการจัดการกับผู้เข้ารับการคัดกรอง

มาตรา 17 ของพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองระบุว่า “ในกรณีพิเศษเฉพาะเรื่อง รัฐมนตรี [มหาดไทย] โดยอนุมัติของคณะรัฐมนตรีจะอนุญาตให้คนต่างด้าวผู้ใดหรือจำพวกใดเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรภายใต้เงื่อนไขใด ๆ หรือจะยกเว้นไม่จำต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ ในกรณีใด ๆ ก็ได้” เพื่อแก้ไขสถานะทางกฎหมายในปัจจุบันของผู้เข้ารับการคัดกรอง และผู้ที่อาจเข้ารับการคัดกรองในอนาคต เราร้องขอให้รัฐบาลของท่านใช้อำนาจตามมาตรา 17 ของพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง เพื่อยกเว้นบุคคลที่ขอรับหรือได้เข้ารับการคัดกรอง จากการบังคับใช้มาตราต่าง ๆ ของพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง ซึ่งจะส่งผลให้พวกเขาถูกจับกุม ถูกควบคุมตัว หรือถูกดำเนินคดี

ในระหว่างที่รัฐบาลไทยเตรียมตัวเพื่อให้พันธสัญญาต่อข้อตกลงโลกว่าด้วยเรื่องผู้ลี้ภัยอีกครั้งนั้น พวกเราที่มีรายชื่อตามด้านท้ายของจดหมายฉบับนี้หวังว่าจะได้ร่วมมือจากรัฐบาลของท่าน เพื่อรับประกันอนาคตที่ดีขึ้นสำหรับผู้ลี้ภัยทุกคนในประเทศไทย

ขอขอบคุณที่ท่านพิจารณาคำร้องขอของเรา มา ณ ที่นี้ และเรายินดีอย่างยิ่งที่จะมีโอกาสได้พูดคุยกับท่านหรือเจ้าหน้าที่ของท่านในเรื่องนี้ต่อไป หากมีคำถามใด ๆ เกี่ยวกับคำร้องขอครั้งนี้ ท่านสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ แพททริค พงศธร เจ้าหน้าที่อาวุโสรณรงค์สิทธิมนุษยชนเชิงกลยุทธ์ ฟอร์ตี้ฟายไรต์ ได้ที่อีเมล์ patrick.phongsathorn@fortifyrights.org หรือเบอร์โทรศัพท์ +66946968477
 

ขอแสดงความนับถือเป็นอย่างสูง
 

Asylum Access Thailand
CRSP
EqualAsia Foundation
Fortify Rights
Human Rights Watch
Migrant Working Group
People Serving People Foundation
Refugee Rights Litigation Project

Your tax deductible gift can help stop human rights violations and save lives around the world.