Skip to main content

ประเทศไทย: ผู้ก่อความไม่สงบระเบิดโรงเรียน โจมตีโรงพยาบาล

กลุ่มผู้แบ่งแยกดินแดนควรยุติการโจมตีพลเรือน

(นิวยอร์ก) – กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเพื่อแบ่งแยกดินแดนในจังหวัดชายแดนใต้ของไทย ได้เริ่มการโจมตีครั้งใหม่ โดยมีเป้าหมายเป็นโรงเรียนและโรงพยาบาล ฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าวในวันนี้ การโจมตีอาคารบ้านเรือนของพลเรือนอย่างจงใจถือเป็นอาชญากรรมสงคราม

ร.ต.อ.หญิง สินีนาถ คงพุทธ © Private

ในตอนเช้าวันที่ 8 มกราคม ผู้ก่อความไม่สงบได้จุดชนวนระเบิดด้านนอกโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 52 ใน อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส รวมทั้งเด็กหญิงนุรอีมาน แนแซ นักเรียนวัย 12 ปี และทหารที่เฝ้ายามในโรงเรียน ในวันเดียวกัน ผู้ก่อความไม่สงบยังได้จุดชนวนคาร์บอมบ์ที่ อ.เทพา จ.สงขลา ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสรวมทั้ง ร.ต.อ.หญิง สินีนาถ คงพุทธ ตำรวจจากหน่วยแพทย์ ทางการไทยกล่าวหาว่า กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่ก่อเหตุครั้งนี้อยู่ภายใต้การนำของนายบูคอรี หลำโซ๊ะ

“ผู้ก่อความไม่สงบในภาคใต้ของไทยโจมตีโรงเรียนและสถานพยาบาล เพื่อทำร้ายและสร้างความหวาดกลัวให้กับพลเรือนชาวพุทธ เพื่อควบคุมประชากรชาวมุสลิม และเพื่อทำลายชื่อเสียงของหน่วยราชการไทย” แบรด อดัมส์ (Brad Adams) ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชีย ฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าว “ไม่ว่าพวกเขามีเหตุผลเบื้องหลังอย่างไร การพุ่งเป้าโจมตีพลเรือนเป็นเรื่องที่ไม่ชอบด้วยศีลธรรมใด ๆ และถือเป็นอาชญากรรมสงคราม”

ผู้ก่อความไม่สงบในภาคใต้ของไทยโจมตีโรงเรียนและสถานพยาบาล เพื่อทำร้ายและสร้างความหวาดกลัวให้กับพลเรือนชาวพุทธ เพื่อควบคุมประชากรชาวมุสลิม และเพื่อทำลายชื่อเสียงของหน่วยราชการไทย
แบรด อดัมส์

ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชีย

ในวันที่ 28 ธันวาคม 2561 กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบได้บุกเข้าไปที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกาลิซา อ.ระแงะ จ.นราธิวาส และยึดเป็นฐานที่มั่นเพื่อโจมตีฐานทัพของรัฐบาลที่อยู่ใกล้เคียง ก่อนจะล่าถอยไป ผู้ก่อความไม่สงบได้ผูกตัวแพทย์และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเอาไว้

นับแต่เริ่มมีการก่อความไม่สงบด้วยอาวุธในเดือนมกราคม 2547 ผู้ก่อความไม่สงบชาวมุสลิมเชื้อสายมลายูซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติมลายูปัตตานี (Barisan Revolusi Nasional - BRN) ได้พุ่งเป้าโจมตีโรงเรียนหลายแห่ง ได้สังหารและทำให้นักเรียน ครู และเจ้าหน้าที่ด้านการศึกษาหลายคนได้รับบาดเจ็บ ผู้ก่อความไม่สงบมองว่าบุคลากรทางการศึกษา เป็นสัญลักษณ์ของการยึดครองภูมิภาคมุสลิมเชื้อสายมลายูของรัฐพุทธไทย พวกเขามักพุ่งเป้าโจมตีเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้คุ้มครองความปลอดภัยของนักเรียนและครู ระหว่างเดินทางไปและกลับจากโรงเรียน หรือทหารที่ประจำการอยู่ในโรงเรียน ฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าว

บริการด้านสาธารณสุขในจังหวัดชายแดนใต้ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงเช่นกัน ทั้ง ๆ ที่ภูมิภาคนี้มีสัดส่วนแพทย์และพยาบาลต่อหัวประชากรต่ำสุดในประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่า ตั้งแต่ปี 2547 มีอาสาสมัครสาธารณสุขและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกว่า 100 คนที่ถูกสังหารและได้รับบาดเจ็บ และที่ผ่านมามีการเผาหรือวางระเบิดสถานีอนามัยหมู่บ้านอย่างน้อย 28 แห่ง สถานีอนามัยหลายแห่งจึงต้องลดเวลาเปิดทำการ และเริ่มปิดประตูเร็วขึ้น ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีของผู้ก่อความไม่สงบในช่วงมืดค่ำ แพทย์ก็มักไม่ประสงค์จะไปเยี่ยมผู้ป่วยนอกโรงพยาบาล ปล่อยให้งานด้านสาธารณสุขในหมู่บ้านเป็นงานของผู้ช่วยพยาบาลและอาสาสมัครสาธารณสุข

ที่ผ่านมาฮิวแมนไรท์วอทช์ได้ประณามการละเมิดกฎหมายสงคราม โดยผู้ก่อความไม่สงบแบ่งแยกดินแดนในจังหวัดชายแดนใต้หลายครั้ง กฎหมายสงครามหรือที่เรียกอีกชื่อว่า กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ห้ามการโจมตีพลเรือนและวัตถุสิ่งของของพลเรือน หรือการโจมตีที่ไม่แยกแยะระหว่างฝ่ายที่มีส่วนร่วมในการสู้รบกับพลเรือน บุคคลใดที่ละเมิดกฎหมายสงครามอย่างร้ายแรงโดยเจตนา ย่อมถือว่ามีความผิดฐานก่ออาชญากรรมสงคราม

ข้ออ้างของผู้ก่อความไม่สงบว่าการโจมตีพลเรือนชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากคนเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของรัฐไทยพุทธ หรืออ้างตามการตีความของตนเองว่า เป็นการโจมตีที่กระทำได้ตามหลักศาสนาอิสลาม ไม่มีความชอบธรรมใด ๆ ตามกฎหมายระหว่างประเทศ ประมาณ 90% ของกว่า 6,000 คนที่เสียชีวิตในระหว่างความขัดแย้งอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2547 เป็นพลเรือน ทั้งในจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสงขลา

ในเวลาเดียวกัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและกลุ่มอาสาสมัครพลเรือน ก็ได้ละเมิดกฎหมายสงครามและกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าว ไม่มีความชอบธรรมใด ๆ ที่จะอ้างว่าสามารถใช้การสังหารนอกกระบวนการกฎหมาย การบังคับบุคคลให้สูญหาย และการซ้อมทรมาน เพื่อเป็นมาตรการตอบโต้ปฏิบัติการก่อความไม่สงบ

สถานการณ์เลวร้ายลงเนื่องจากวัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิดที่ฝังรากลึก ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ไม่ต้องรับผิดชอบต่อการปฏิบัติมิชอบที่เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนใต้ ที่ผ่านมารัฐบาลไม่สามารถดำเนินคดีเพื่อลงโทษเจ้าหน้าที่ที่ก่ออาชญากรรมต่อชาวมุสลิมเชื้อสายมลายู ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยว่าก่อความไม่สงบ นักปกป้องสิทธิมนุษยชนและทนายความต้องเผชิญกับการข่มขู่ คุกคาม และถูกดำเนินคดีอาญาฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา หากออกมากล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ไทยมีส่วนรับผิดชอบต่อการปฏิบัติมิชอบ

“ความรุนแรงส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อชีวิตของคนทั่วไปในจังหวัดชายแดนใต้ของไทย ในเกือบทุกด้าน” อดัมส์กล่าว “ทั้งผู้ก่อความไม่สงบและกองกำลังของรัฐ ได้อ้างว่ามีความชอบธรรมในการโจมตีที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและขาดความรับผิด ซึ่งส่งผลให้เกิดการปฏิบัติมิชอบมากยิ่งขึ้น เราจำเป็นต้องหยุดยั้งวงจรที่ชั่วร้ายของความทารุณและการตอบโต้กันเช่นนี้”

GIVING TUESDAY MATCH EXTENDED:

Did you miss Giving Tuesday? Our special 3X match has been EXTENDED through Friday at midnight. Your gift will now go three times further to help HRW investigate violations, expose what's happening on the ground and push for change.