Skip to main content

ประเทศไทย: ผู้วิจารณ์รัฐบาลทหารสามคนถูกทำร้ายในเดือนที่ผ่านมา

ยังไม่สามารถจับคนซึ่งลอบทำร้ายนักกิจกรรมชื่อดังได้

(นิวยอร์ก)  – ทางการ ไทยควรสอบสวนอย่างเร่งด่วนและไม่ลำเอียง ต่อเหตุทำร้ายนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยคนสำคัญสามคน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2562 ฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าวในวันนี้ ตำรวจไทยยังไม่สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยซึ่งก่อเหตุทำร้ายอย่างรุนแรงได้ ทำให้เกิดข้อกังวลอย่างจริงจังว่ารัฐบาลอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุเหล่านี้

สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยคนสำคัญ ถูกลอบทำร้ายที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน2562 หลังจัดการประท้วงอย่างสงบเพื่อต่อต้านรัฐบาลทหารของไทย © 2018 Private

เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน เวลาประมาณสี่ทุ่ม ชายไม่ทราบชื่อห้าคนซึ่งมาพร้อมมอเตอร์ไซค์ ได้ทำร้ายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิวที่ป้ายรถเมล์ปากซอยถนนรัชฎาภิเษกที่กรุงเทพฯ โดยได้ตีเขาด้วยท่อนไม้หลายครั้ง เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ใบหน้า แขน และลำตัว เหตุทำร้ายเกิดขึ้นหลังจากสิรวิชญ์ตั้งโต๊ะล่ารายชื่อที่ใจกลางกรุงเทพฯ เพื่อหาผู้สนับสนุนไม่ให้วุฒิสมาชิกที่เพิ่งได้รับแต่งตั้งเข้ามา 250 คนร่วมโหวตสนับสนุนให้หัวหน้ารัฐบาลทหารและนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ อีกสมัยหนึ่ง ตำรวจให้ข้อมูลกับฮิวแมนไรท์วอทช์ว่า กล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุเสีย หรือถูกบังด้วยต้นไม้ เป็นเหตุให้ไม่มีภาพคนร้าย

“การลอบโจมตีแบบอันธพาลต่อ่นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย เป็นแนวโน้มใหม่ที่อันตรายในประเทศไทย” แบรด อดัมส์ (Brad Adams) ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชีย ฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าว “การที่ทางการไทยไม่ดำเนินการสอบสวนอย่างจริงจังต่อเหตุทำร้ายเหล่านี้ เท่ากับกระตุ้นให้มีเหตุทำร้ายเช่นนี้มากขึ้นในอนาคต และยังชี้ว่าเจ้าหน้าที่อาจมีส่วนร่วม”

ที่ผ่านมารัฐบาลทหารในนามคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สัญญาหลายครั้งที่จะเคารพสิทธิมนุษยชน และฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตยของพลเรือน แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา สร้างบรรยากาศของความหวาดกลัวให้กับนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยในประเทศไทย ฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าว

ในเดือนพฤษภาคม คนร้ายไม่ทราบชื่อได้ ทำร้าย นักเคลื่อนไหวฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลคนสำคัญจนได้รับบาดเจ็บสองคน รวมทั้งอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือ ฟอร์ดเส้นทางสีแดง และเอกชัย หงส์กังวาน ระหว่างอยู่ในกรุงเทพฯ ในทั้งสองกรณี ตำรวจไทย ไม่ได้ดำเนินการสอบสวนอย่างจริงจังถึง เหตุลอบทำร้ายที่เกิดขึ้น ก่อนหน้านี้เอกชัยได้ร้องเรียนอย่างเป็นทางการถึงการถูกทำร้ายที่ผ่านมากับกรมส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)   

ในวันที่ 27 พฤษภาคม รองนายกรัฐมนตรีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณบอกปัดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่อตำรวจ ระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสื่อโดยระบุว่า “ตำรวจทำหน้าที่ดีอยู่แล้ว พวกเขา (อนุรักษ์และเอกชัย) ควรถามตัวเองว่าไปทำอะไรมา ทำไมถึงมีคนต้องการทำร้ายพวกเขา?”

ทางการมีหน้าที่ประกันให้บุคคลที่ทำงานคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย สามารถปฏิบัติหน้าที่ของตนได้ใน บรรยากาศที่ปลอดภัยและเกื้อหนุน ฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าว อย่างไรก็ดี นักเคลื่อนไหวของไทยหลายคนได้ตกเป็นเป้าการคุกคามและการฟ้องคดีที่มีแรงจูงใจทางการเมืองมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ในเดือนมกกราคม 2559  เจ้าหน้าที่ทหารได้บุกอุ้มตัวสิรวิชญ์ และนำไปให้ตำรวจควบคุมตัว ส่งผลให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย สิรวิชญ์ถูกดำเนินคดีอาญาหลายข้อหา รวมทั้งยุยงปลุกปั่น เนื่องจากการประท้วงอย่างสงบเพื่อต่อต้านรัฐบาลทหาร  

นับแต่การทำรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 รัฐบาลทหารได้ คุกคาม ข่มขู่ และดำเนินคดีกับ นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยและผู้ต่อต้านรัฐบาล ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิของพวกเขาที่จะมีเสรีภาพในการแสดงออก การชุมนุมอย่างสงบและการสมาคม นอกจากนั้น รัฐบาลทหารยังเรียกตัวนักการเมือง นักกิจกรรม และบุคคลอื่น ๆ ที่ถูกมองว่าต่อต้านระบอบทหารหลายร้อยคน เพื่อเข้ารับ “การปรับทัศนคติ” โดยบังคับให้พวกเขายุติการแสดงความเห็นต่อต้าน

นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยและฝ่ายต่อต้านรัฐบาลได้ลี้ภัยทางการเมืองในประเทศไทย และต้องเสี่ยงภัยอย่างมากระหว่างอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าว ในลาว คนร้ายไม่ทราบชื่อได้ลักพาตัวคนไทยที่ลี้ภัยอย่างน้อยห้าคน โดยต่อมาพบว่าสามคนถูกสังหาร ส่วนอีกสองคนยังหายตัวอยู่ ในเดือนพฤษภาคม มีข้อกล่าวหาว่าทางการเวียดนามได้บังคับส่งกลับนักเคลื่อนไหวสามคนไปยังประเทศไทย ซึ่งได้หายตัวไปนับจากนั้นมา

“พันธมิตรของประเทศไทยไม่ควรปล่อยให้การเลือกตั้งที่ผ่านมาเป็นข้ออ้าง เพื่อเพิกเฉยต่อสถานการณ์ด้านสิทธิที่เสื่อมทรามลงในประเทศ” อดัมส์กล่าว “ประเทศไทยจำเป็นต้องมีชุมชนด้านสิทธิมนุษยชนที่เข้มแข็งมากยิ่งกว่าในช่วงใด ๆ และรัฐบาลของประเทศที่เกี่ยวข้องควรชี้แจงให้ผู้นำไทยทราบอย่างชัดเจนว่า จำเป็นต้องมีการปฏิบัติงานอย่างจริงจังเพี่อยุติการทำร้ายนักกิจกรรมเหล่านี้” 

Your tax deductible gift can help stop human rights violations and save lives around the world.

Donate today to protect and defend human rights

Human Rights Watch operates in over 100 countries, where we work to investigate and document human rights abuses, expose the truth and hold perpetrators to account. Your generosity helps us continue to research abuses, report on our findings, and advocate for change, ensuring that human rights are protected for all.