Skip to main content

ประเทศไทย: นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย 39 คนถูกดำเนินคดี

ข้อหายุยงปลุกปั่น การชุมนุมอย่างผิดกฎหมาย ปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงความเห็น การชุมนุมอย่างสงบ

นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยถูกดำเนินคดีข้อหายุยงปลุกปั่นและชุมนุมอย่างผิดกฎหมาย จากการประท้วงอย่างสงบเพื่อต่อต้านระบอบปกครองของทหารในประเทศไทย ©2018 Noppakow Kongsuwan

(นิวยอร์ก) – ทางการไทย ควรยกเลิกการดำเนินคดีอาญาโดยทันทีต่อนักเคลื่อนไหว 39 คน ซึ่งชุมนุมประท้วงอย่างสงบต่อต้านระบอบปกครองของทหารที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2561 ฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าวในวันนี้ หากศาลเห็นว่าพวกเขามีความผิด นักเคลื่อนไหวทั้งเจ็ดคนที่ถูกดำเนินคดีข้อหายุยงปลุกปั่น อาจได้รับโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี

“การดำเนินคดีกับนักเคลื่อนไหวที่ประท้วงต่อต้านระบอบปกครองของทหารอย่างสงบโดยรัฐบาลทหารไทย แสดงให้เห็นว่าไม่มีความจริงใจที่จะผ่อนคลายการปราบปรามทางการเมือง” แบรด อดัมส์ (Brad Adams) ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชีย ฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าว “ยิ่งมีการดำเนินคดีโดยพลการต่อผู้ที่เห็นต่างและผู้วิพากษ์วิจารณ์มากขึ้น ยิ่งทำให้เห็นว่ารัฐบาลทหารไม่ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่จะฟื้นฟูประชาธิปไตยในประเทศไทย”

เมื่อวันที่ 29 มกราคม รัฐบาลทหารในนามคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แจ้งความดำเนินคดีนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยเจ็ดคน ประกอบด้วยนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ นายสุกฤษฎ์ เพียรสุวรรณ น.ส.ณัฎฐา มหัทธนา นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นายเอกชัย หงส์กังวาน นายอานนท์ นำภา และนายรังสิมันต์ โรม ในข้อหายุยงปลุกปั่นและละเมิดคำสั่งห้ามชุมนุมสาธารณะของรัฐบาลทหาร จากการประท้วงด้านหน้าศูนย์ศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร พวกเขาเรียกร้องให้รัฐบาลทหารยกเลิกกฎหมายจำกัดเสรีภาพขั้นพื้นฐาน และให้จัดการเลือกตั้งภายในเดือนพฤศจิกายน 2561 ตามคำสัญญาเดิมของนายกรัฐมนตรีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา  

ทางการยังกล่าวหาว่านักเคลื่อนไหวทั้งเจ็ดคน รวมทั้งผู้ชุมนุมอีก 32 คน ละเมิดพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 ซึ่งห้ามการชุมนุมในรัศมี 150 เมตรจากเขตพระราชฐาน ซึ่งในกรณีนี้คือ วังสระปทุม ทั้งหมดมีกำหนดเข้ารับทราบข้อกล่าวหาที่สถานีตํารวจนครบาลปทุมวันในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้

ในแต่ละวันที่ผ่านไปที่พลเอกประยุทธ์และรัฐบาลทหารพยายามสืบทอดอำนาจตนเอง ก็ยิ่งส่งผลกระทบอย่างยิ่งต่อประชาชนชาวไทยผู้ต้องสูญเสียสิทธิขั้นพื้นฐานของตนไป
Brad Adams

ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชีย

นอกจากข้อหายุยงปลุกปั่นตามมาตรา 116 ของประมวลกฎหมายอายา นักเคลื่อนไหวทั้งเจ็ดคนยังอาจได้รับโทษจำคุกเพิ่มเติมอีกหกเดือน และปรับไม่เกิน 10,000 บาท หากศาลเห็นว่ามีความผิดฐานละเมิดคำสั่งห้ามชุมนุมสาธารณะของคสช. ทั้ง 39 คนถูกดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ ซึ่งกำหนดโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน และปรับไม่เกิน 10,000 บาท

กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International Covenant on Civil and Political Rights) ซึ่งไทยเป็นรัฐภาคี คุ้มครองสิทธิที่จะมีเสรีภาพในการแสดงออก การสมาคมและการชุมนุมอย่างสงบ นับแต่รัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 รัฐบาลทหารไทยได้คุกคามและดำเนินคดีอย่างต่อเนื่องกับบุคคลที่แสดงความเห็นโดยการพูด การเขียน การโพสต์ข้อความ และการวิพากษ์วิจารณ์อื่น ๆ ต่อระบอบปกครองของทหาร รัฐบาลทหารสั่งห้ามการชุมนุมทางการเมืองของบุคคลกว่าห้าคนขึ้นไป ทางการยังได้จับกุมบุคคลหลายร้อยคนที่รวมตัวหรือมีส่วนร่วมในการชุมนุมสาธารณะเหล่านี้ รัฐบาลทหารมักปฏิบัติต่อผู้แสดงความเห็นต่าง และ เรียกร้องการฟื้นฟูระบอบประขาธิปไตยแบบพลเรือน เหมือนเป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งชาติ นับแต่กองทัพยึดอำนาจ ทางการได้สั่งฟ้องคดีกับบุคคลอย่างน้อย 40 คนในข้อหายุยงปลุกปั่นซึ่งมีลักษณะเผด็จการ

แม้พลเอกประยุทธ์จะให้คำสัญญาต่อสาธารณะหลายครั้งที่จะฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตย จัดเลือกตั้ง และปฏิบัติตามสิ่งที่เรียกว่า “วาระสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ” แต่การปราบปรามยังคงเกิดขึ้นต่อไปโดยไม่มีท่าทีจะยุติลง ฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าว

ในเดือนมกราคม สหรัฐฯ และ สหภาพยุโรป กระตุ้นอย่างเปิดเยให้พลเอกประยุทธ์ยกเลิกกฎหมายจำกัดเสรีภาพขั้นพื้นฐาน ให้ฟื้นฟูการเคารพสิทธิมนุษยชน และปฏิบัติตามคำสัญญาที่จะจัดเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน 

“ในแต่ละวันที่ผ่านไปที่พลเอกประยุทธ์และรัฐบาลทหารพยายามสืบทอดอำนาจตนเอง ก็ยิ่งส่งผลกระทบอย่างยิ่งต่อประชาชนชาวไทยผู้ต้องสูญเสียสิทธิขั้นพื้นฐานของตนไป” อดัมส์กล่าว “สหรัฐฯ สหภาพยุโรป และรัฐบาลที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ต้องกดดันโดยทันที เพื่อให้รัฐบาลยุติการปราบปราม ฟื้นฟูการเคารพสิทธิขั้นพื้นฐาน และฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตยแบบพลเรือนในประเทศไทย”

 

GIVING TUESDAY MATCH EXTENDED:

Did you miss Giving Tuesday? Our special 3X match has been EXTENDED through Friday at midnight. Your gift will now go three times further to help HRW investigate violations, expose what's happening on the ground and push for change.
Region / Country