Skip to main content

ประเทศไทย: วิกฤตด้านสิทธิซึ่งยังไม่ยุติ

การปราบปรามยังเกิดขึ้นต่อไปภายใต้ระบอบเผด็จการทหาร

นักศึกษาที่ต่อต้านรัฐประหารถือโปสเตอร์ในโอกาสครบรอบสามปีการทำรัฐประหาร ระหว่างการชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กรุงเทพฯ 22 พฤษภาคม 2560 © 2017 Chaiwat Subprasom / Reuters

(นิวยอร์ก) – รัฐบาลไทย ไม่ได้ดำเนินการอย่างจริงจังใด ๆ เพื่อฟื้นฟูระบอบปกครองที่เป็นประชาธิปไตยและเสรีภาพขั้นพื้นฐานในปี 2560 ฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าวในวันนี้ในรายงานระดับโลกประจำปี 2561 การที่รัฐบาลทหารประกาศให้สิทธิมนุษยชนเป็นวาระแห่งชาติ และคำสัญญาครั้งแล้วครั้งเล่าของพวกเขาที่จะจัดการเลือกตั้งเพื่อให้มีรัฐบาลพลเรือน ไม่ได้ช่วยแก้ไขวิกฤตสิทธิมนุษยชนของประเทศเลย

ในรายงาน World Report ความยาว 643 หน้า ซึ่งพิมพ์เป็นครั้งที่ 28 ฮิวแมนไรท์วอทช์ทบทวนสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในกว่า 90 ประเทศ ในบทนำ Kenneth Roth ผู้อำนวยการบริหารบอกว่า ผู้นำการเมืองที่พร้อมจะยืนหยัดปกป้องหลักการสิทธิมนุษยชน พิสูจน์ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่จะควบคุมจำกัดบทบาทของนักประชานิยมเผด็จการได้ ด้วยการหนุนหลังของพลังมวลชนและภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ผู้นำเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า เราสามารถจัดตั้งรัฐบาลที่ต่อต้านการขยายตัวของฝ่ายขวาจัดได้

“รัฐบาลทหารของไทยได้ใช้อำนาจที่ปราศจากการตรวจสอบของตน เพื่อทำให้ประเทศตกต่ำลงไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุดในแง่การปฏิบัติมิชอบด้านสิทธิมนุษยชน” แบรด อดัมส์ (Brad Adams) ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชีย ฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าว “แทนที่จะฟื้นฟูสิทธิขั้นพื้นฐานตามที่สัญญา รัฐบาลทหารกลับดำเนินคดีกับผู้วิพากษ์วิจารณ์และผู้เห็นต่าง มีการสั่งห้ามการประท้วงอย่างสงบและมีการเซ็นเซอร์สื่อมวลชน”

“รัฐบาลทหารของไทยได้ใช้อำนาจที่ปราศจากการตรวจสอบของตน เพื่อทำให้ประเทศตกต่ำลงไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุดในแง่การปฏิบัติมิชอบด้านสิทธิมนุษยชน
Brad Adams

ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชีย

ในเดือนสิงหาคม ทางการได้ดำเนินคดีกับประวิตร โรจนพฤกษ์ นักข่าวอาวุโส และพิชัย นริพทะพันธุ์และวัฒนา เมืองสุข นักการเมืองคนสำคัญสองคนในข้อหายุยงปลุกปั่นและละเมิดพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ จากการที่พวกเขาแสดงความเห็นในเฟซบุ๊กเกี่ยวกับปัญหาทางการเมืองและเศรษฐกิจของไทย ผู้วิพากษ์วิจารณ์คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มักถูกบังคับให้เข้ารับ “การปรับทัศนคติ” ในค่ายทหาร ในเดือนพฤศจิกายน เจ้าหน้าที่ไทยได้ใช้กำลังอย่างรุนแรงเพื่อสลายการชุมนุมประท้วงอย่างสงบในจังหวัดสงขลา เพื่อสกัดไม่ให้ผู้ประท้วงยื่นหนังสือร้องเรียนเพื่อต่อต้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ต่อพลเอกประยุทธ์ ส่งผลให้มีแกนนำผู้ประท้วงอย่างน้อย 16 คนถูกจับกุม

ในระหว่างปีนี้ ทางการได้ระงับการออกอากาศว็อยซ์ทีวี สถานีวิทยุสปริงนิวส์ พีซทีวีและ TV24 เนื่องจากวิพากษ์วิจารณ์ระบอบปกครองของทหาร สถานีของสื่อเหล่านี้ได้รับอนุญาตให้ออกอากาศในเวลาต่อมา หลังจากยินยอมที่จะเซ็นเซอร์ตัวเอง

ในฐานะหัวหน้าคสช. นายกรัฐมนตรีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ใช้อำนาจอย่างไม่จำกัด รวมทั้งอำนาจของกองทัพในการจับกุม ควบคุมตัวและสอบปากคำพลเรือนโดยไม่มีหลักประกันเพื่อป้องกันการปฏิบัติมิชอบ โดยยังคงมีพลเรือนอย่างน้อย 1,800 คนที่ต้องเข้ารับการไต่สวนในศาลทหาร ซึ่งไม่สามารถปฏิบัติตามมาตรฐานการพิจารณาคดีที่เป็นธรมระหว่างประเทศได้

นับแต่รัฐประหารปี 2557 ทางการไทยได้จับกุมบุคคลอย่างน้อย 105 คนในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ การปราบปรามในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพได้รุนแรงขึ้นหลังการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเมื่อเดือนตุลาคม 2559 ในเดือนสิงหาคม ศาลจังหวัดขอนแก่น ได้สั่งลงโทษจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา (ไผ) นักศึกษาที่เป็นนักกิจกรรมคนสำคัญ โดยให้จำคุกเป็นเวลา 30 เดือน เนื่องจากการโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กโดยเป็นเนื้อหาจากบทความในบีบีซีไทย ซึ่งเป็นพระราชประวัติของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร กษัตริย์พระองค์ใหม่ของไทย

ในเดือนกุมภาพันธ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลทหาร ได้ระงับการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ซึ่งกำหนดให้การทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหายเป็นความผิดทางอาญา สอดคล้องกับพันธกรณีของประเทศไทย รัฐบาลยังไม่ได้ชี้แจงว่าจะมีการบรรจุร่างกฎหมายนี้เข้าสู่การพิจารณาอีกหรือไม่

ที่ผ่านมายังไม่มีการดำเนินคดีต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้น รวมทั้งในเหตุการณ์ “สงครามปราบปรามยาเสพติด” เมื่อปี 2546 และการสลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 รวมทั้งยังไม่มีการดำเนินคดีอาญาเนื่องจากการปฏิบัติมิชอบของเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงในจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งในพื้นที่ดังกล่าวกลุ่มก่อความไม่สงบเพื่อแบ่งแยกดินแดนก็ได้ปฏิบัติมิชอบหลายครั้งต่อพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ

“คำสัญญาที่ว่างเปล่าของนายกรัฐมนตรีประยุทธ์ ไม่อาจสร้างความชอบธรรมให้การปฏิบัติต่อประเทศไทยเหมือนที่เคยเป็นมา” อดัมส์กล่าว “รัฐบาลประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกควรกดดันรัฐบาลทหารให้ยุติการปราบปราม เคารพสิทธิขั้นพื้นฐาน และให้ฟื้นฟูระบอบปกครองที่เป็นประชาธิปไตยของพลเรือนโดยทันที” 

GIVING TUESDAY MATCH EXTENDED:

Did you miss Giving Tuesday? Our special 3X match has been EXTENDED through Friday at midnight. Your gift will now go three times further to help HRW investigate violations, expose what's happening on the ground and push for change.