Skip to main content

ประเทศไทย: กลุ่มแบ่งแยกดินแดนวางระเบิดโรงเรียนในภาคใต้

พ่อ ลูกสาวถูกสังหารในการโจมตีอย่างมีเป้าหมาย

(นิวยอร์ก) – กลุ่มแบ่งแยกดินแดนได้กดระเบิดในภาคใต้ของไทย ด้านนอกของโรงเรียน เป็นเหตุให้ชายคนหนึ่งและลูกสาวเสียชีวิต ฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าวในวันนี้ การพุ่งเป้าโจมตีอย่างตั้งใจต่อโรงเรียนซึ่งเป็นอาคารสถานที่ของพลเรือน ถือเป็นการก่ออาชญากรรมสงครามและปฏิเสธไม่ให้เด็กได้รับสิทธิด้านการศึกษา

เช้าวันที่ 6 กันยายน 2559 คาดว่าเป็นกลุ่มก่อความไม่สงบได้กดระเบิดน้ำหนัก 20 กิโลกรัมซึ่งถูกซ่อนอยู่ในรถมอเตอร์ไซค์ซึ่งจอดอยู่หน้าโรงเรียนบ้านตาบา อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส เหตุระเบิดเกิดขึ้นขณะที่ผู้ปกครองไปส่งลูกที่โรงเรียน ส่งผลให้นายมะเย็ง เวาะบะ และด.ญ.มิตรา เวาะบะ บุตรสาววัยสี่ขวบเสียชีวิตโดยทันที แรงระเบิดทำให้พลเรือนบาดเจ็บอย่างน้อย 10 คนรวมทั้งครู ผู้ปกครอง และตำรวจจราจร ทางการไทยกล่าวหาว่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบภายใต้การนำของนายรอมลี เจะยิ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้

“ผู้ก่อเหตุระเบิดในโรงเรียนขณะที่ผู้ปกครองมาส่งลูกหลาน แสดงความโหดร้ายป่าเถื่อนที่ยากจะเข้าใจ” แบรด อดัมส์ (Brad Adams) ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชีย ฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าว “การเรียกเหตุการณ์ครั้งนี้ว่าอาชญากรรมสงครามอาจไม่ครอบคลุมถึงอันตรายทั้งหมดที่เกิดขึ้นต่อผู้เสียหาย รวมทั้งผลกระทบที่กว้างไกลกว่านั้น อันเป็นผลมาจากการโจมตีแบบนี้ต่อเด็ก ๆ ในภูมิภาคนี้”

การเจรจาสันติภาพระหว่างรัฐบาลไทยและกลุ่มแบ่งแยกดินแดนภายใต้ร่มของกลุ่ม Majlis Syura Patani (มาราปัตตานี) ได้เริ่มขึ้นอีกครั้งเมื่อวันที่ 2 กันยายน อย่างไรก็ดี ผู้ก่อความไม่สงบซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่ม Barisan Revolusi Nasional-Coordinate (BRN-Coordinate) ยังคงไม่ยุติการโจมตีต่อพลเรือน

งานวิจัยของฮิวแมนไรท์วอทช์ชี้ให้เห็นว่า ได้เกิดเหตุก่อความไม่สงบแบบมีเป้าหมายเพิ่มขึ้นนับแต่เดือนมกราคม 2547 โดยกลุ่ม BRN-Coordinate ได้พุ่งเป้าโจมตีโรงเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษาอื่น ๆ ซึ่งพวกเขาเห็นว่าเป็นสัญลักษณ์ของการควบคุมของรัฐไทยพุทธในพื้นที่ของชาวมุสลิมเชื้อสายมลายู

ที่ผ่านมามีการวางเพลิงหรือการโจมตีด้วยระเบิดอย่างจงใจต่อโรงเรียนกว่า 200 แห่งในช่วง 12 ปีของการขัดกันด้วยอาวุธ ส่งผลให้มีครูเสียชีวิตอย่างน้อย 182 คน บางครั้งเสียชีวิตในห้องเรียน โดยผู้ก่อความไม่สงบยังมักลอบยิงหน่วยลาดตระเวนด้านความมั่นคงของรัฐบาลไทย ซึ่งทำหน้าที่เป็นชุดคุ้มครองครูและนักเรียนระหว่างเดินทางไปกลับจากโรงเรียน การโจมตีเหล่านี้ถือเป็นการละเมิดอย่างร้ายแรงต่อกฎหมายสงคราม และอาจถึงขั้นเป็นอาชญากรรมสงคราม

การเรียกเหตุการณ์ครั้งนี้ว่าอาชญากรรมสงครามอาจไม่ครอบคลุมถึงอันตรายทั้งหมดที่เกิดขึ้นต่อผู้เสียหาย รวมทั้งผลกระทบที่กว้างไกลกว่านั้น อันเป็นผลมาจากการโจมตีแบบนี้ต่อเด็ก ๆ ในภูมิภาคนี้
แบรด อดัมส์

ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชีย

ที่ผ่านมาฮิวแมนไรท์วอทช์ได้ประณามการละเมิดกฎหมายสงครามของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในจังหวัดชายแดนใต้อย่างต่อเนื่อง กฎหมายสงครามหรือที่เรียกว่ากฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ห้ามการโจมตีพลเรือนและวัตถุของพลเรือน หรือการโจมตีซึ่งไม่แยกแยะระหว่างฝ่ายกำลังพลที่เข้าร่วมสงครามกับพลเรือน ตามหลักกฎหมายสงคราม เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจรและเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยทั่วไป ถือเป็นพลเรือนเช่นกัน ไม่มีความชอบธรรมตามกฎหมายระหว่างประเทศตามข้ออ้างของกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่มักบอกว่าการโจมตีพลเรือนชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของรัฐไทยพุทธ หรือตามหลักกฎหมายอิสลามในความเข้าใจของพวกเขา อนุญาตให้ทำการโจมตีเช่นนั้นได้ ในจำนวนกว่า 6,000 ซึ่งเสียชีวิตในระหว่างความขัดแย้งที่เกิดขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2547 กว่า 90% เป็นพลเรือนซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมที่อาศัยอยู่ในจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสงขลา

ฮิวแมนไรท์วอทช์ได้กระตุ้นให้รัฐบาลไทยเข้าร่วมกับอีก 55 ประเทศเพื่อลงนามรับรองปฏิญญาว่าด้วยโรงเรียนปลอดภัย ซึ่งเป็นการประกาศพันธกิจโดยสมัครใจ ที่จะดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อการคุ้มครองที่ดีขึ้นสำหรับนักเรียน ครู และโรงเรียนในระหว่างการขัดกันด้วยอาวุธ

ในรายงานของเลขาธิการองค์การสหประชาชาติว่าด้วยเด็กในสถานการณ์การขัดกันด้วยอาวุธในปีนี้ มีข้อสังเกตถึงการโจมตีอย่างมิชอบด้วยกฎหมายในจังหวัดชายแดนใต้ของไทย แต่ไม่ระบุอย่างชัดเจนว่ากลุ่ม Barisan Revolusi Nasional-Coordinate เป็นส่วนหนึ่งของผู้ละเมิด หากมีการระบุว่าชื่อของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการขัดกันด้วยอาวุธในบัญชีรายชื่อดังกล่าว จะส่งผลให้ทางองค์การสหประชาชาติต้องมีมาตรการเพิ่มมากขึ้นเพื่อตอบโต้ รวมทั้งการประสานงานอย่างเข้มข้นกับหน่วยงานสหประชาชาติ ซึ่งประจำอยู่ในประเทศที่ได้รับผลกระทบ และอาจมีมาตรการแทรกแซงจากคณะมนตรีความมั่นคง เพื่อช่วยเหลือเด็กในสถานการณ์การขัดกันด้วยอาวุธของไทย เลขาธิการสหประชาชาติจึงควรขึ้นบัญชีกลุ่ม BRN-Coordinate ว่าเป็นส่วนหนึ่งของผู้ละเมิดโดยทันที

ฮิวแมนไรท์วอทช์ยังคงกังวลอย่างลึกซึ้งต่อการละเมิดกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศและกฎหมายสงคราม ที่เกิดขึ้นจากกองกำลังของรัฐบาลไทยและกลุ่มติดอาวุธอื่น ๆ การสังหาร การบังคับบุคคลให้สูญหายและการทรมานโดยเจ้าหน้าที่ ไม่อาจถือเป็นมาตรการที่ชอบธรรมที่ใช้ เพื่อตอบโต้กับการก่อความไม่สงบที่เกิดขึ้นกับกลุ่มประชากรไทยพุทธและเจ้าหน้าที่ความมั่นคงแต่อย่างใด สถานการณ์นี้เลวร้ายยิ่งขึ้นอันเป็นผลมาจากวัฒนธรรมการลอยนวลพ้นผิด เนื่องจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนของเจ้าหน้าที่ในจังหวัดชายแดนใต้ ที่ผ่านมารัฐบาลยังไม่สามารถฟ้องร้องดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติมิชอบด้านสิทธิมนุษยชนต่อชาวมุสลิมเชื้อสายมลายู ที่ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการก่อความไม่สงบได้เลย

“การโจมตีอย่างมิชอบด้วยกฎหมายและการขาดความรับผิด กลายเป็นเหตุผลที่ทั้งผู้ก่อความไม่สงบและกองกำลังของรัฐบาลใช้ เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับการปฏิบัติมิชอบมากยิ่งขึ้น” อดัมส์กล่าว “วงจรอันชั่วร้ายของความโหดร้ายและการตอบโต้ควรยุติลงโดยทันที” 

GIVING TUESDAY MATCH EXTENDED:

Did you miss Giving Tuesday? Our special 3X match has been EXTENDED through Friday at midnight. Your gift will now go three times further to help HRW investigate violations, expose what's happening on the ground and push for change.