Skip to main content

ประเทศไทย: รัฐธรรมนูญใหม่สืบทอดอำนาจปกครองของทหาร

การออกเสียงประชามติผ่านไป ท่ามกลางการปราบปรามของรัฐบาลทหารต่อผู้วิพากษ์วิจารณ์รัฐธรรมนูญ

นายกรัฐมนตรีประยุทธ์ จันทร์โอชาหย่อนบัตรในระหว่างการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2559 © 2016 Reuters

(นิวยอร์ก) – รัฐธรรมนูญใหม่ที่ผ่านการออกเสียงประชามติของไทยเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2559 เป็นการเพิ่มและสืบทอดอำนาจปกครองของทหารต่อไป ฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าวในวันนี้ การออกเสียงเกิดขึ้นภายหลังการปราบปรามของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่กระทำต่อผู้รณรงค์ให้ “โหวตโน” และบุคคลอื่น ๆ ที่ต่อต้านร่างรัฐธรรมนูญนี้

“การรณรงค์ปราบปรามของรัฐบาลทหารไทย ต่อฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญ ประกันว่าการออกเสียงประชามติครั้งนี้จะไม่เป็นธรรม” แบรด อดัมส์ (Brad Adams) ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชีย ฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าว “แทนที่จะเป็นการฟื้นฟูระบอบปกครองของพลเรือนอย่างเป็นประชาธิปไตยตามคำสัญญาที่ให้ไว้เมื่อนานมาแล้ว รัฐธรรมนูญใหม่จะยิ่งสนับสนุนอำนาจของทหารที่ไม่อาจตรวจสอบได้และระบอบเผด็จการที่ฝังรากลึกมากขึ้น”

ผู้มีสิทธิออกเสียงประมาณ 55% ได้ไปใช้สิทธิตอบคำถามการออกเสียงประชามติสองข้อ คำถามข้อแรกคือ จะยอมรับร่างรัฐธรรมนูญของคสช.หรือไม่ คำถามข้อที่สองคือ ในช่วงห้าปีแรกหลังรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ จะอนุญาตให้วุฒิสมาชิกที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลทหาร สามารถลงมติในที่ประชุมรัฐสภาเพื่อคัดเลือกผู้ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่

หลังจากนับคะแนนทั่วประเทศไป 94% คณะกรรมการการเลือกตั้งรายงานว่า ผู้มีสิทธิประมาณ 15.6 ล้านคน (61%) เห็นชอบตามร่างรัฐธรรมนูญ และอีกประมาณ 9.8 ล้านคน (39%) ไม่เห็นชอบ ตอบคำถามที่สอง ผู้มีสิทธิ 13.9 ล้านคน (58%) ให้ความเห็นชอบ และ 10 ล้านคน (42 %) ไม่ให้ความเห็นชอบ

องค์ประกอบหลักของรัฐธรรมนูญใหม่มุ่งสืบทอดอำนาจปกครองของทหาร โดยทำให้พรรคการเมืองอ่อนแอลง ดังที่รัฐบาลทหารได้ระบุไว้ รัฐธรรมนูญใหม่ประกอบด้วยข้อบท ซึ่งทำให้มีโอกาสน้อยมากที่พรรคการเมืองเดียวจะได้รับเสียงข้างมากในสภาล่างซึ่งมีสมาชิก 500 คน ส่งผลให้วุฒิสภา 250 คนที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลทหารจะมีบทบาทสำคัญในรัฐสภา รวมทั้งการคัดเลือกผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นสส.อีกต่อไป

นอกจากนั้น คสช.ยังกำหนดให้ที่นั่งวุฒิสมาชิกบางส่วนเป็นของสมาชิกของคสช.เอง รวมทั้งปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ และผู้บัญชาการทหารอากาศ และผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามรัฐธรรมนูญใหม่ ทั้งรัฐบาลใหม่และรัฐสภาจะต้องปฏิบัติตาม “แผนปฏิรูป 20 ปี” ของรัฐบาลทหาร

รัฐธรรมนูญใหม่จะยิ่งตอกย้ำอำนาจปกครองของทหารที่เป็นการปฏิบัติมิชอบและตรวจสอบไม่ได้ ซึ่งเป็นระบอบปกครองที่เกิดขึ้นในไทยนับแต่รัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557.
Brad Adams

ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชีย



นับแต่รัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557 คสช.ได้ปราบปรามอย่างรุนแรงต่อสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557 อนุญาตให้รัฐบาลทหารปฏิบัติตามนโยบายและมาตรการใด ๆ โดยไม่มีการกำกับดูแลหรือการตรวจสอบอย่างเป็นผล รวมทั้งกรณีที่เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชน รัฐธรรมนูญที่ผ่านการรับรองใหม่ในมาตรา 279 กำหนดว่า บรรดาประกาศ คำสั่ง และการกระทำใด ๆ ของคสช.ให้ถือว่าชอบด้วยรัฐธรรมนูญและจะยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไป

“รัฐธรรมนูญใหม่ประกันว่า จะไม่มีการตรวจสอบรัฐบาลทหาร สำหรับการละเมิดสิทธิที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากนับแต่ยึดอำนาจเมื่อปี 2557” อดัมส์กล่าว

ฮิวแมนไรท์วอทช์ได้แสดงข้อกังวลอย่างต่อเนื่องว่า องค์ประกอบซึ่งเป็นที่ยอมรับระดับสากล ซึ่งจะทำให้เกิดกระบวนการออกเสียงประชามติที่เป็นธรรม ได้ขาดหายไป โดยเฉพาะในแง่ของสิทธิที่จะมีเสรีภาพในการแสดงออก การสมาคม และการชุมนุมอย่างสงบ รัฐบาลได้ปราบปรามสิทธิเหล่านี้อย่างเข้มข้น ทั้งการใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และมาตรา 116 ของประมวลกฎหมายอาญาว่าด้วยการยุยงปลุกปั่น รวมทั้งคำสั่งของรัฐบาลทหารที่เซ็นเซอร์สื่อและห้ามไม่ให้มีการรวมตัวในที่สาธารณะของบุคคลกว่าห้าคนขึ้นไป รัฐบาลยังไม่เปิดโอกาสให้ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญ สามารถเข้าถึงอย่างเท่าเทียมในการใช้สื่อของรัฐ หรือประกันว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งจะปฏิบัติหน้าที่อย่างไม่ลำเอียง อย่างเป็นอิสระ และตรวจสอบได้

คณะรักษาความสงบแห่งชาติที่นำโดยนายกรัฐมนตรีประยุทธ์ จันทร์โอชา เพิกเฉยต่อข้อร้องเรียนด้วยความกังวลจากองค์การสหประชาชาติและรัฐบาลต่างประเทศ ที่เรียกร้องให้ทางการไทยเคารพสิทธิของประชาชนในการแสดงความเห็นอย่างเสรีเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ รัฐบาลทหารได้ตีความโดยพลการว่า การวิพากษ์วิจารณ์และความเห็นต่างที่มีต่อร่างรัฐธรรมนูญเป็น “ข้อมูลเท็จ” ตามพระราชบัญญัติการออกเสียงประชามติ และเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติ

ทางการได้จับกุมนักการเมือง นักกิจกรรม ผู้สื่อข่าว และผู้สนับสนุนขบวนการทางการเมืองที่วิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญอย่างน้อย 120 คน บุคคลเหล่านี้ประกาศอย่างเปิดเผยว่าจะโหวตโน มีการกระตุ้นให้ผู้มีสิทธิไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ หรือพยายามตรวจสอบกระบวนการออกเสียง หากศาลพบว่าบุคคลเหล่านี้มีความผิดฐานละเมิดพระราชบัญญัติการออกเสียงประชามติ อาจเป็นเหตุให้ได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี โดยคาดว่าจะมีการพิจารณาคดีเหล่านี้ในศาลทหารแทนที่จะเป็นศาลพลเรือน

ความไม่อดทนของรัฐบาลทหารต่อฝ่ายที่คัดค้านร่างรัฐธรรมนูญ ทำให้เกิดข้อกังวลต่อการปราบปรามที่เข้มข้นขึ้นก่อนจะถึงการเลือกตั้งทั่วไปในครั้งต่อไป ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในช่วงปลายปี 2560 แทนที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนผ่านของระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง คสช.ได้ใช้กระบวนการออกเสียงประชามติเพื่อส่งเสริมบรรยากาศของความหวาดกลัว และเพื่อสนับสนุนอำนาจควบคุมของรัฐบาลต่อไป

“รัฐธรรมนูญใหม่จะยิ่งตอกย้ำอำนาจปกครองของทหารที่เป็นการปฏิบัติมิชอบและตรวจสอบไม่ได้ ซึ่งเป็นระบอบปกครองที่เกิดขึ้นในไทยนับแต่รัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557” อดัมส์กล่าว “องค์การสหประชาชาติและพันธมิตรของประเทศไทย ต้องดำเนินการเรียกร้องให้ยุติการปฏิบัติมิชอบด้านสิทธิมนุษยชน และให้มีการปฏิรูปประชาธิปไตยอย่างแท้จริง”

GIVING TUESDAY MATCH EXTENDED:

Did you miss Giving Tuesday? Our special 3X match has been EXTENDED through Friday at midnight. Your gift will now go three times further to help HRW investigate violations, expose what's happening on the ground and push for change.
Topic