Skip to main content

การปฏิบัติอย่างมิชอบต่อผู้ลี้ภัย เป็นมลทินต่อสถิติด้านสิทธิของประเทศไทย

การบังคับส่งกลับ การควบคุมตัวอย่างไร้มนุษยธรรมยิ่งทำให้เกิดความทุกข์ยากเพิ่มขึ้นต่อผู้แสวงหาที่พักพิง

เรือของกองทัพไทยลากเรือของผู้เข้าเมืองออกนอกชายฝั่งของไทย ใกล้กับเกาะหลีเป๊ะในภาคใต้เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2558 © 2015 Reuters

​เป็นอีกครั้งหนึ่งที่วันผู้ลี้ภัยโลกเวียนมาบรรจบ โดยยังไม่มีการปรับปรุงด้านการปฏิบัติที่เลวร้ายของประเทศไทยต่อผู้ลี้ภัยและผู้แสวงหาที่พักพิง

แม้จะมีประสบการณ์หลายทศวรรษในการรองรับผู้ลี้ภัยหลายล้านคน แต่ประเทศไทยยังคงไม่มีกฎหมายว่าด้วยผู้ลี้ภัย หรือไม่มีขั้นตอนปฏิบัติระดับชาติที่น่าเชื่อถือในการคัดกรองเพื่อให้ที่พักพิงแก่พวกเขา ส่งผลให้ผู้ลี้ภัยและผู้แสวงหาที่พักพิงอยู่ในสภาพที่เปราะบาง เสี่ยงจะถูกปฏิบัติมิชอบ

ยกตัวอย่างเช่น เจ้าหน้าที่ของไทยปฏิบัติต่อผู้แสวงหาที่พักพิงที่อาศัยอยู่นอกค่ายที่พักพิงชั่วคราวตามพรมแดนไทย-พม่า รวมทั้งผู้ที่ได้รับสถานะผู้ลี้ภัยจากสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UN High Commissioner for Refugees - UNHCR) ราวกับเป็นผู้เข้าเมืองผิดกฎหมาย ซึ่งต้องถูกจับกุมและส่งกลับ ส่งอำนวยความสะดวกให้ประเทศไทยส่งกลับบุคคลที่ตกเป็นเป้าหมายการตามล่าของรัฐบาลต่างชาติ

รัฐบาลไทยชุดที่ผ่าน ๆ มารวมทั้งปัจจุบันได้ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และไม่ฟังเสียงคัดค้านจากทั้งองค์การสหประชาชาติและหลายประเทศ โดยมีการบังคับส่งกลับผู้ลี้ภัยและผู้แสวงหาที่พักพิงไปยังประเทศที่เสี่ยงจะถูกปราบปรามหรือทรมาน สถานการณ์เลวร้ายลงนับแต่นายกรัฐมนตรีประยุทธ์ จันทร์โอชา ยึดอำนาจด้วยการทำรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557

ในกรณีที่ถือว่าสำคัญมากสุด รัฐบาลไทยได้ส่งกลับบุคคลที่ถูกกล่าวหาว่าสนับสนุนกระบวนการเกอเลน (Gülen movement) ไปยังประเทศตุรกีเมื่อเดือนพฤษภาคม 2560 ส่งกลับนักกิจกรรมชาวจีนไปยังประเทศจีนเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2558 และส่งกลับชาวอุยเก๋อ 109 คนไปยังประเทศจีนเมื่อเดือนกรกฎาคม 2558

ทางการไทยยังคงขัดขวางไม่ให้เรือที่บรรทุกชาวโรฮิงญา ซึ่งหลบหนีจากพม่าเข้าสู่ชายฝั่งของไทย โดยเจ้าหน้าที่ไทยเพียงแต่ให้ความช่วยเหลือขั้นพื้นฐานกับบุคคลเหล่านั้น ก่อนจะส่งเรือกลับเข้าไปในทะเลที่เต็มไปด้วยอันตราย รัฐบาลไทยยังปฏิเสธไม่ให้ความร่วมมือกับ UNHCR ในกระบวนการคัดกรองเพื่อจำแนกสถานะผู้ลี้ภัยของชาวโรฮิงญา ส่งผลให้พวกเขาหลายคนต้องถูกควบคุมตัวในฐานะคนต่างด้าวอย่างไม่มีกำหนด

สถานกักตัวคนต่างด้าวของประเทศไทยมีสภาพแออัดอย่างยิ่ง ขาดแคลนอาหาร การระบายอากาศไม่ดี และไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์และบริการที่จำเป็นอื่น ๆ จึงไม่น่าประหลาดใจที่มีผู้ถูกควบคุมตัวหลายคนเสียชีวิตในสถานที่เหล่านั้น ทั้งยังมีการควบคุมตัวผู้เยาว์อย่างไม่ชอบด้วยกฎหมาย และด้วยสาเหตุมาจากสถานการณ์เป็นผู้เข้าเมืองของพวกเขา เป็นเวลาหลายเดือนหรือหลายปี

ประเทศไทยควรให้สัตยาบันรับรองอนุสัญญาว่าด้วยผู้ลี้ภัย พ.ศ.2494 และพิธีสาร พ.ศ.2510 และควรบัญญัติกฎหมายว่าด้วยผู้ลี้ภัยให้สอดคล้องกับอนุสัญญาดังกล่าว ในแง่ความร่วมมือกับ UNHCR รัฐบาลไทยควรกำหนดให้มีขั้นตอนการตรวจสอบคำขอที่พักพิงที่เป็นธรรมและโปร่งใส เพื่อประกันว่า บุคคลจากทุกสัญชาติจะมีสิทธิในการขอรับสถานะผู้ลี้ภัยภายใต้เงื่อนไขอย่างเดียวกัน สุดท้าย ประเทศไทยควรปล่อยตัวผู้ลี้ภัยซึ่งได้รับสถานะและขึ้นทะเบียนกับ UNHCR แล้วโดยทันที และให้ยกเลิกนโยบายการควบคุมตัวผู้แสวงหาที่พักพิงอย่างไม่มีเวลากำหนด  

GIVING TUESDAY MATCH EXTENDED:

Did you miss Giving Tuesday? Our special 3X match has been EXTENDED through Friday at midnight. Your gift will now go three times further to help HRW investigate violations, expose what's happening on the ground and push for change.