Skip to main content

ประเทศไทย: ยกเลิกการสั่งพักการออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ที่วิพากษ์วิจารณ์กองทัพ

รัฐบาลทหารควรรับฟังข้อเรียกร้องขององค์การสหประชาชาติที่ให้ยุติการจำกัดเสรีภาพของสื่อและเสรีภาพในการแสดงออก

(นิวยอร์ก) – หน่วยงานกำกับดูแลสื่อของไทยมีมติพักใช้ใบอนุญาตของสถานีโทรทัศน์เป็นเวลาเจ็ดวัน ถือเป็นการเซ็นเซอร์อย่างชัดเจน ซึ่งจะยิ่งกระทบต่อเสรีภาพของสื่อ และตอกย้ำความเป็นเผด็จการทางทหาร ฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าวในวันนี้

นายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาทำวันทยหัตถ์ต่อเจ้าหน้าที่ทหารที่กองบัญชาการกองทัพไทย กรุงเทพฯ ประเทศไทย วันที่ 30 กันยายน 2557 © 2014 Reuters

ในวันที่ 27 มีนาคม 2560 พลโทพีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ประกาศพักใช้ใบอนุญาตของวอยซ์ ทีวี สถานีโทรทัศน์เอกชนซึ่งทราบกันดีว่ามักวิพากษ์วิจารณ์ระบอบปกครองของทหาร การพักใช้ใบอนุญาตครั้งนี้เป็นผลมาจากคำร้องเรียนของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งเป็นรัฐบาลทหาร โดยกล่าวหาว่าทางสถานีเผยแพร่รายการที่มีเนื้อหาไม่เที่ยงตรงและลำเอียงและคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติ

“การสั่งลงโทษวอยซ์ ทีวีเนื่องจากเนื้อหาของรายการที่ออกอากาศ เป็นเพียงความพยายามล่าสุดของรัฐบาลทหารไทยที่จะควบคุมสื่อมวลชนของไทยที่ครั้งหนึ่งเคยมีบทบาทอย่างกว้างขวาง และกดดันให้พวกเขากลายเป็นเพียงกระบอกเสียงของระบอบปกครองของทหาร” แบรด อดัมส์ (Brad Adams) ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชีย ฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าว “รัฐบาลทหารพยายามขัดขวางไม่ให้สื่อมวลชนรายงานข้อมูลการละเมิดสิทธิมนุษยชน การสอบสวนกรณีการปฏิบัติมิชอบของเจ้าหน้าที่ และการเปิดโปงการใช้อำนาจอย่างมิชอบของรัฐบาล”

การลงโทษต่อวอยซ์ ทีวีของรัฐบาลทหาร เป็นผลมาจากรายการที่ออกอากาศช่วงกลางเดือนมีนาคม ซึ่งให้ข้อมูลที่ตรงข้ามและวิพากษ์วิจารณ์ต่อข้อมูลของหน่วยงานทางทหาร เกี่ยวกับการบุกเข้าไปตรวจค้นวัดพระธรรมกาย การสังหารเยาวชนที่เป็นนักกิจกรรมชาติพันธุ์ลาหู่โดยทหาร การจับกุมกลุ่มต่อต้านรัฐบาลที่ถูกกล่าวหาว่าครอบครองอาวุธ และวางแผนลอบสังหารนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคนอื่น ๆ และโครงการก่อสร้างบ่อนคาสิโนที่อื้อฉาวบริเวณพรมแดนไทย-กัมพูชา

ทันทีหลังรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557 รัฐบาลทหารได้สั่งปิดการออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมและดิจิทัล รวมทั้งสถานีวิทยุชุมชนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับฝ่ายต่าง ๆ ทางการเมือง ต่อมามีการอนุญาตให้สถานีบางแห่งรวมทั้งวอยซ์ ทีวีได้ออกอากาศ โดยมีการบังคับให้ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับรัฐบาลทหาร โดยทางสถานีต้องสัญญาว่าจะไม่แสดงความเห็นที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลทหารหรือสถานการณ์ในประเทศไทย

อย่างไรก็ดี วอยซ์ ทีวียังคงปฏิบัติตามนโยบายที่จะเป็นสื่ออิสระในการรายงานข่าว แม้ที่ผ่านมาจะถูกทางการลงโทษซ้ำแล้วซ้ำอีก เนื่องจากทางการไม่พอใจที่ทางสถานียังคงรายงานข่าวที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลทหาร เฉพาะในปี 2559 กองทัพได้สั่งพักการออกอากาศรายการของวอยซ์ ทีวีกว่า 10 ครั้ง โดยเป็นผลมาจากรายงานข่าวของสถานี

การสั่งลงโทษวอยซ์ ทีวีเนื่องจากเนื้อหาของรายการที่ออกอากาศ เป็นเพียงความพยายามล่าสุดของรัฐบาลทหารไทยที่จะควบคุมสื่อมวลชนของไทยที่ครั้งหนึ่งเคยมีบทบาทอย่างกว้างขวาง และกดดันให้พวกเขากลายเป็นเพียงกระบอกเสียงของระบอบปกครองของทหาร
Brad Adams

ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชีย

หลังยกเลิกการประกาศใช้กฎอัยการศึกในเดือนมีนาคม 2558 รัฐบาลทหารยังคงเซ็นเซอร์สื่อมวลชนต่อไป โดยใช้อำนาจตามประกาศและคำสั่งที่ออกตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว

ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 97/2557 ห้าม “การวิพากษ์ วิจารณ์การปฏิบัติงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ” และการเผยแพร่ “ข้อมูลข่าวสารที่จะเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ ก่อให้เกิดความสับสน ยั่วยุ ปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้ง หรือสร้างให้เกิดความแตกแยกในราชอาณาจักร” ประกาศดังกล่าวยังเป็นการบังคับให้สถานีข่าวต้องเผยแพร่ข้อมูลที่รัฐบาบทหารต้องการด้วย

ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 103/2557 ห้ามเพิ่มเติมต่อการเผยแพร่ข้อมูล ข่าวสาร ซึ่งทางการเห็นว่ามีข้อมูล “โดยมีเจตนาทำให้เกิดความเข้าใจผิด อันจะส่งผลกระทบต่อการรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคม” ด้วยเหตุดังกล่าว คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จึงกลายเป็นเครื่องมือเพื่อการเซ็นเซอร์ของรัฐบาลทหาร โดยมีอำนาจอย่างกว้างขวางและปราศจากการตรวจสอบในการสั่งพักรายการของสถานีโทรทัศน์และวิทยุ หรือสั่งพักใช้ใบอนุญาตอย่างสิ้นเชิง โดยเป็นผลมาจากเนื้อหาของรายการซึ่งทางการเห็นว่ามีลักษณะบิดเบือน สร้างความแตกแยก และเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติ

ในระหว่างการทบทวนพันธกรณีของไทยต่อกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International Covenant on Civil and Political Rights-ICCPR) เมื่อวันที่ 13 และ 14 มีนาคม คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ได้วิจารณ์อย่างหนักหน่วงต่อรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งปราบปรามเสรีภาพในขั้นพื้นฐาน รวมทั้งเสรีภาพในการแสดงออกและเสรีภาพของสื่อ

“รัฐบาลทหารควรรับฟังข้อเสนอแนะขององค์การสหประชาชาติ และควรยุติการเซ็นเซอร์” อดัมส์กล่าว “รัฐบาลควรแสดงพันธกิจโดยทันทีที่จะคุ้มครองเสรีภาพของสื่อ ด้วยการยกเลิกคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตเป็นเวลาเจ็ดวันต่อวอยซ์ ทีวี และให้ยุติการดำเนินงานใด ๆ ซึ่งเป็นไปเพื่อปิดปากสถานีแห่งนี้และสื่อมวลชนที่ส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์อื่น ๆ” 

GIVING TUESDAY MATCH EXTENDED:

Did you miss Giving Tuesday? Our special 3X match has been EXTENDED through Friday at midnight. Your gift will now go three times further to help HRW investigate violations, expose what's happening on the ground and push for change.
Region / Country