Skip to main content

แรงงานข้ามชาติจากเอเชียตกเป็นเหยื่อจากการโจมตีของกลุ่มฮามาส

ถ้าไม่นับตัวประกันที่เป็นพลเรือนชาวอิสราเอล คนไทยถูกจับเป็นตัวประกันมากสุด

ธวัชชัยและทองคูณ อ่อนแก้ว พ่อแม่ของณัฐพร อ่อนแก้ว ถือภาพของลูกที่ด้านนอกบ้านพักในจังหวัดนครพนม ประเทศไทย วันที่ 10 ตุลาคม 2566 ณัฐพรทำงานในอิสราเอล ในขณะที่สมาชิกกลุ่มติดอาวุธจากปาเลสไตน์ได้จับเขาเป็นตัวประกันเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 © 2023 Thomas Suen/Reuters

การโจมตีของกลุ่มฮามาสทางตอนใต้ของอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม มีเป้าหมายเป็นชาวอิสราเอล แต่แรงงานข้ามชาติในอิสราเอลก็ได้ถูกสังหารและถูกจับเป็นตัวประกันเช่นกัน ครอบครัวของพวกเขาต่างเศร้าโศกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพวกเขาในอีกซีกโลกหนึ่ง ทั้งในประเทศไทย เนปาล ฟิลิปปินส์ และกัมพูชา

มีผู้ถูกจับเป็นตัวประกันกว่า 240 คนในวันที่ 7 ตุลาคม รัฐบาลอิสราเอล รายงานว่า ถ้าไม่นับตัวประกันที่เป็นชาวอิสราเอล ผู้ที่ถูกกลุ่มติดอาวุธจากปาเลสไตน์จับตัวไปมากสุดได้แก่คนไทย ตามข้อมูลของ กระทรวงการต่างประเทศของไทย พลเมืองไทย 22 คนถูกจับเป็นตัวประกัน 32 คนถูกสังหาร และอีก 19 คนได้รับบาดเจ็บ ทั้งมีรายงานว่านักศึกษาชาวเนปาล สิบคน ถูกสังหารเช่นกัน รวมทั้งคนทำงานดูแลผู้ป่วยชาวฟิลิปปินส์ สี่คน และนักศึกษาชาวกัมพูชา หนึ่งคน 

การจงใจสังหารพลเรือนและการจับบุคคลเป็นตัวประกัน ถือเป็นอาชญากรรมสงคราม ไม่ควรมีการใช้บุคคลเป็นเครื่องมือเพื่อต่อรอง และกลุ่มฮามาสและกลุ่มอิสลามญีฮัดควรปล่อยตัวประกันที่เป็นพลเรือนทุกคนทันทีและอย่างปลอดภัย รัฐบาลประเทศต่าง ๆ ที่มีอิทธิพลต่อกลุ่มฮามาส ควรใช้อิทธิพลของตนเพื่อกดดันให้มีการปฏิบัติกับตัวประกันทุกคนอย่างมีมนุษยธรรม และให้ปล่อยพวกเขาโดยไม่มีเงื่อนไข  

ประเทศไทยเป็นประเทศที่ส่งออกแรงงานข้ามชาติมากสุดไปยังอิสราเอล โดยมีคนไทยประมาณ 30,000 คนที่ทำงานในอิสราเอล ส่วนใหญ่เป็นผู้ชายและทำงานในภาคเกษตรกรรม คนไทยหลายพันคนทำงานในสวนที่อยู่ตามแนวพรมแดนติดกับฉนวนกาซา ขณะที่เกิดการโจมตีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 

รัฐบาลไทยได้จัดส่งเครื่องบินเพื่อไปขนย้ายพลเรือนของตนกลับมา และมีการขนส่งคนไทยกลับมาแล้ว 7,415 คน จนถึงวันที่ 30 ตุลาคม แต่หลายคนก็ไม่อยากกลับจากอิสราเอล เพราะมีหนี้สินที่เกิดขึ้นจากการไปงานทำที่นั่น คนงานไทยในอิสราเอลได้รับค่าจ้างต่ำ ต้องทำงานเป็นเวลานาน และต้องทำงานที่เสี่ยงอันตรายในอิสราเอล ทั้งนี้ตาม การเก็บข้อมูล ของฮิวแมนไรท์วอทช์ก่อนหน้านี้

คณะรัฐมนตรีไทย เสนอ เงินช่วยเหลือ 50,000 บาท และเงินกู้ยืมดอกเบี้ยต่ำให้กับผู้ที่ประสงค์จะเดินทางกลับมา รัฐบาลอิสราเอลก็ได้ เสนอ เงินเพื่อจูงใจให้อยู่ต่อ และสัญญาว่าจะรักษาความปลอดภัยให้คนงานมากขึ้น

ในเวลาเดียวกัน ประเทศไทยได้ส่งตัวปานปรีย์ พหิทธานุกร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ไปเยือนกาตาร์และอียิปต์ เพื่อกดดันให้มีการปล่อยตัวประกันชาวไทย

พ่อของมณี จิรชาติ พนักงานทำความสะอาดสำนักงานชาวไทยวัย 29 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวประกันบอกกับ CNN ว่า “ผมไม่รู้จะพูดอะไร ผมเพียงแต่อยากได้ลูกชายกลับมา”

Make Your Gift Go Even Further

Make your year-end gift today and it will be multiplied to power Human Rights Watch’s investigations and advocacy as we head into 2026. Our exclusive match is only available until December 31.