Skip to main content

ประเทศไทย : คำสัญญาของ นายกทักษิณที่จะให้ความยุติธรรมแก่

(นิวยอร์ก) องค์การฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าวว่า ทางการไทยยังจำเป็นที่
จะต้องทำการสืบสวนคดีต่อไป เพื่อนำตัวผู้ที่เกี่ยวข้องกับการหายตัวของทนายสมชาย นีละ
ไพจิตรมาลงโทษโดยด่วน ถึงแม้เมื่อวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา ศาลจะพิพากษาจำคุก
เจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 นายในข้อหาข่มขืนใจทนายสมชาย โดยใช้กำลังประทุษร้ายก็ตาม

ทนายสมชาย ซึ่งเป็นประธานชมรมนักกฏหมายมุสลิม และรองประธานคณะกรรมการสิทธิ
มนุษยชนของสภาทนายความ ถูกลากออกจากรถยนต์ของเขาในคืนวันที่ 12 มีนาคม 2547 โดย
บุคคลที่เชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ 5 นาย และหลังจากนั้น ทนายสมชายก็หายตัวไป ขณะที่
เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น ทนายสมชายเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบฟ้องร้องเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไป
เกี่ยวข้องกับการทำทารุณกรรมชาวมุสลิมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

เจ้าหน้าที่ตำรวจ 5 นายถูกจับกุม และดำเนินคดีทีเกี่ยวข้องกับการร่วมกันข่มขืนใจทนายสมชาย
โดยใช้กำลังประทุษร้าย ซี่งเมื่อวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา ศาลอาญากลางได้พิพากษาจำคุก
พ.ต.ต.เงิน ทองสุก 3 เดือนในความผิดดังกล่าว ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เหลืออีก 4 นายที่เป็น
ผู้ต้องหาในคดีนี้ถูกยกฟ้อง เพราะพยานหลักฐานไม่เพียงพอ

แบรด อาดัมส์ ผู้อำนายการฝ่ายเอเซียขององค์การฮิวแมนไรท์วอทช์ กล่าวว่า “คดีนี้เหยื่อ
ผู้เคราะห์ร้ายหายตัวไป และเชื่อได้ว่าเสียชีวิตไปแล้ว แต่เป็นเรื่องประหลาดที่ยังไม่มีใครถูก
ลงโทษในข้อหาความผิดที่ร้ายแรงมากกว่าการทำร้ายร่างกาย ทั้งๆ ที่เวลาก็ผ่านไปเนิ่นนาน
แล้ว” “การที่เจ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ดังนั้น จึงไม่น่าไว้วางใจ
ที่จะมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดในคดีนี้ต่อไป”

เมื่อวันที่ 13 มกราคม ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตรยอมรับต่อสาธารณะเป็นครั้งแรก
ว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไป และการเสียชีวิตของทนายสมชาย “กรม
สืบสวนคดีพิเศษ [กระทรวงยุติธรรม] กำลังทำสำนวนเรื่องนี้ เพื่อนำไปสู่คดีการตั้งข้อหาฆ่าคน
ตาย … จะสามารถสรุปสำนวนการสืบสวนสอบสวนได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ... ทราบว่า
[ทนายสมชาย] เสียชีวิตแล้ว เพราะพบร่องรอยหลักฐาน … โดยมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้อง
แน่นอน และมีมากกว่า 4 คน … คดีอย่างนี้ การหาพยานหลักฐานไม่ง่าย”

แบรด อาดัมส์ กล่าวว่า “ถึงแม้จะเป็นเรื่องดีที่นายกรัฐมนตรีทักษิณยอมรับว่า มีเจ้าหน้าที่ของรัฐ
เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตทนายสมชาย แต่ประเด็นนี้ก็ปรากฏชัดเจนมาตั้งแต่วันแรกที่ทนาย
สมชายหายตัวไปแล้ว ดังนั้น นายกรัฐมนตรีทักษิณจึงจำเป็นต้องรับประกันว่า การสืบวนต่อไปนี้
จะต้องตอบคำถามให้ได้ว่า ใครเป็นผู้บงการการสังหารทนายสมชาย? ใครขัดขวางกระบวนการ
ยุติธรรม? และเกิดอะขึ้นกับทนายสมชาย?”

ก่อนหน้าที่เขาจะหายตัวไป ทนายสมชายได้บอกกับครอบครัว และเพื่อนฝูงว่า เขาถูกข่มขู่จาก
การที่ไปตรวจสอบ และกล่าวหาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำการทารุณกรรมผู้ต้องสงสัยในคดีที่
เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ปล้นปืนจากกองพันทหารพัฒนา จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 4 มกราคม
2547 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความรุนแรงระลอกใหม่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้

เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2548 อังคณา นีละไพจิตร ภรรยาของทนายสมชาย ยื่นคำร้องอย่างเป็นทางการต่อ คณะทำงานของสหประชาชาติเกี่ยวกับปัญหาการบังคับทำให้บุคคลสูญหาย โดยแสดงความไม่พอใจกับความ ล้มเหลวของทางการไทยในการแก้ไขคดีนี้

องค์การฮิวแมนไรท์วอทช์มีความห่วงใยอย่างยิ่งต่อความปลอดภัยของครอบครัวของทนายสมชาย และผู้ที่เข้าไปมี ส่วนเกี่ยวข้องช่วยเหลือในการต่อสู้เรียกร้องความยุติธรรมในคดีนี้ โดยได้รับข้อมูลว่า พวกเขาถูกข่มขู่ และติดตาม มานานหลายเดือนแล้ว การคุกคามครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 มกราคม หลังจากที่ภรรยาของทนายสมชาย ออกมาจากห้องพิจารณาคดี เธอพบว่า ไฟหน้าของรถยนต์ของทนายความที่เธอใช้ที่เดินทางมายังศาลอาญากลาง ถูกทุบแตก ส่วนนักสิทธิมนุษยชนก็รายงานว่า ถูกข่มขู่ทางโทรศัพท์หลายครั้งระหว่างปฏิบัติหน้าที่สังเกตการณ์การ พิจารณาคดีนี้

แบรด อาดัมส์ กล่าวว่า “นายกรัฐมนตรีทักษิณควรมีคำสั่งอย่างเปิดเผยให้มีการสอบสวนเกี่ยวกับการข่มขู่คุกคาม ครอบครัวของทนายสมชาย และผู้ที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องช่วยเหลือในการต่อสู้เรียกร้องความยุติธรรมในคดีนี้ เพราะการดูแลรับรองความปลอดภัยของบุคคลเหล่านี้เป็นความรับผิดชอบของทางการไทย”

องค์การฮิวแมนไรท์วอทช์พบว่า คดีของทนายสมชายเป็นกรณีเดียวที่ได้รับความสนใจจากสาธารณะ และมีการ สืบสวนสอบสวนไปถึงขั้นที่มีการจับตัวผู้ต้องหา และดำเนินคดีพิพากษาในชั้นศาล ถึงแม้การดำเนินคดีดังกล่าวจะ ไม่สามารถตอบคำถามเกี่ยวกับการหายตัวไปของทนายสมชายได้ก็ตาม ส่วนรายงานเกี่ยวกับบุคคลจำนวนมากที่ ถูกเจ้าหน้าที่ของรัฐทำให้หายตัวไป ซึ่งเริ่มปรากฏขึ้นภายในระยะเวลาไม่กี่วันที่นายกรัฐมนตรีทักษิณเร่งรัดกดดัน ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ปล้นปืนจากกองพันทหารพัฒนา จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2547 นั้นยังคงไม่มีการดำเนินการใดๆ ที่จะช่วยให้เกิดความยุติธรรมขึ้นเลย

แบรด อาดัมส์ กล่าวว่า “แรงกดดันทางการเมืองที่ต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารปราบปรามเอาชนะผู้ก่อ ความไม่สงบ เป็นสาเหตุทำให้ปัญหาการทำให้บุคคลสูญหาย และการสังหารที่ผิดกฏหมายเกิดเพิ่มมากขึ้น รัฐบาล จำเป็นจะต้องตอบคำถาม และให้ความยุติธรรมในคดีของทนายสมชาย และปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนอื่นๆ เพื่อที่จะให้ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้เชื่อมั่นไว้วางใจในทางการไทย”

องค์การฮิวแมนไรท์วอทช์เรียกร้องให้ มีการจัดตั้งองค์กรอิสระขึ้นมาเพื่อทำการสืบสวนข้อกล่าวหาต่างๆ ที่ เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมที่กระทำโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ ในขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีทักษิณ และทางการไทย จะต้องเร่งรัดดำเนินมาตรการทุกอย่างที่มีความจำเป็นต่อการยุติการบังคับทำให้บุคคลสูญหาย ซึ่งรวมถึงการทำให้ บังคับทำให้บุคคลสูญหายเป็นความผิดทางอาญา นอกจากนี้ ทางการไทยจะต้องรับประกันว่า บุคคลที่ถูกควบคุม ตัวโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารจะต้องถูกนำตัวไปไว้ที่สถานที่เปิดเผยตรวจสอบได้ โดยจะต้องมีการแจ้งสถานที่ ควบคุมตัวบุคคลเหล่านั้นให้ครอบครัว และทนายความทราบ รวมทั้งจะต้องมีหลักประกันไม่ให้มีการทารุณกรรม หรือการกระทำที่ไม่เหมาะสมใดๆ ต่อบุคคลเหล่านั้น

GIVING TUESDAY MATCH EXTENDED:

Did you miss Giving Tuesday? Our special 3X match has been EXTENDED through Friday at midnight. Your gift will now go three times further to help HRW investigate violations, expose what's happening on the ground and push for change.