Skip to main content

ประเทศไทย:ให้สอบสวนกรณีที่ทหารสังหารเยาวชนที่เป็นนักกิจกรรม

นักทำหนังชาติพันธุ์ชาวลาหู่ถูกยิงเสียชีวิตระหว่างปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด

(นิวยอร์ก) – ทางการไทยควรดำเนินการสอบสวนโดยทันทีและอย่างโปร่งใส กรณีการยิงสังหารเยาวชนที่เป็นนักกิจกรรมกลุ่มชาติพันธุ์ลาหู่ หลังจากถูกควบคุมตัวโดยทหาร ฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าวในวันนี้ นายชัยภูมิ ป่าแส อายุ 17 ปีถูกยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2560 หลังจากทหารควบคุมตัวเขาไว้ฐานมียาเสพติดในครอบครองที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ทางภาคเหนือของไทย

© 2017 Private

เจ้าหน้าที่ทหารจากกองร้อย ม.2 บก.ควบคุมที่ 1 ฉก.ม 5 ร่วมกับชสท.ที่ 9 กองกำลังผาเมือง แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ว่า ได้เรียกรถยนต์ให้หยุดตรวจที่ด่านบ้านรินหลวง เป็นรถที่ชัยภูมิโดยสารมาด้วย ทหารอ้างว่าระหว่างการตรวจค้นได้พบยาบ้าจำนวน 2,800 เม็ดซ่อนอยู่ในหม้อกรองอากาศของรถยนต์ จึงมีการควบคุมตัวนายชัยภูมิและนายพงศนัย แสงตะหล้า ซึ่งเป็นคนขับเอาไว้ ระหว่างที่ยังตรวจค้นรถยนต์ต่อไป ทหารระบุว่าชัยภูมิได้หลบหนีจากการจับกุม โดยนำมีดออกมาจากที่ท้ายรถ ทำการต่อสู้และวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าข้างทาง ทหารอ้างว่าได้ติดตามเขาไปและในระหว่างนั้นชัยภูมิได้ทำท่าจะโยนระเบิดมือใส่ เป็นเหตุให้ต้องยิงเขาเพื่อป้องกันตัว ทหารไม่ได้อธิบายว่าบุคคลที่ถูกควบคุมตัวสามารถเดินไปหยิบมีดหรือระเบิดได้อย่างไร ผู้ชันสูตรพลิกศพยืนยันว่า ชัยภูมิถูกยิงด้วยกระสุนจากปืนเอ็ม 16 หนึ่งนัดทะลุเข้าที่แขนด้านซ้าย เข้าไปที่หัวใจ

“ข้ออ้างที่ว่าทหารสังหารเยาวชนที่เป็นนักกิจกรรมกลุ่มชาติพันธุ์ที่กล้าวิพากษ์วิจารณ์ และอ้างว่าเป็นการป้องกันตัวหลังจากที่เขาถูกควบคุมตัวโดยทหาร เป็นเรื่องที่น่าตกใจ” แบรด อดัมส์ (Brad Adams) ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชีย ฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าว “แทนที่จะยอมรับคำกล่าวอ้างของทหารที่ยิงชัยภูมิโดยทันที ทางการจำเป็นต้องดำเนินการสอบสวนอย่างรอบด้านและอย่างไม่ลำเอียงในกรณีนี้ และให้เปิดเผยผลสอบสวนต่อสาธารณะ”

ชัยภูมิเป็นนักกิจกรรมที่มีชื่อเสียงจากเครือข่ายต้นกล้าเยาวชนพื้นเมืองที่อำเภอเชียงดาว เขามีส่วนเกี่ยวข้องในการรณรงค์หลายครั้งเพื่อส่งเสริมสิทธิของชาวลาหู่และชนชาติพันธุ์กลุ่มน้อยอื่น ๆ ที่เสียเปรียบในภาคเหนือของไทย เพื่อให้พวกเขาได้รับสัญชาติ เข้าถึงบริการด้านสุขภาพ และได้รับการศึกษา เขายังได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การปฏิบัติมิชอบของเจ้าหน้าที่ความมั่นคงที่กระทำต่อชุมชนของเขาในระหว่างปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด นอกจากนั้น ชัยภูมิยังเป็นนักทำสารคดีและเป็นนักแต่งเพลง หนังสั้นของเขาหลายเรื่องได้รับการออกอากาศทางช่องไทยพีบีเอส รวมทั้งเรื่อง “เข็มขัดกับหวี”

ชนชาติพันธุ์กลุ่มน้อยของไทยจะยังไม่ได้รับความเท่าเทียมอย่างเต็มที่ ตราบที่ผู้ซึ่งทำงานปกป้องพวกเขายังต้องปฏิบัติงานด้วยความเสี่ยงทุกวัน และตราบที่ยังไม่มีการสอบสวนการสังหารที่เกิดขึ้นเช่นนี้อย่างเหมาะสม
Brad Adams

ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชีย

 

ตามหลักการพื้นฐานแห่งสหประชาชาติเกี่ยวกับการใช้อาวุธปืนของเจ้าพนักงานผู้บังคับใช้กฎหมาย (United Nations Basic Principles on the Use of Force and Firearms by Law Enforcement Officials) ซึ่งมีผลบังคับใช้ต่อเจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติงานในฐานะผู้บังคับใช้กฎหมายระบุว่า เจ้าหน้าที่ความมั่นคงต้องพยายามใช้วิธีการที่ปราศจากความรุนแรงให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ก่อนจะเลือกใช้กำลัง กรณีที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงการใช้กำลังอันชอบด้วยกฎหมายได้ ทางการควรใช้ความระมัดระวังและปฏิบัติการอย่างได้สัดส่วนกับความร้ายแรงของความผิดนั้น การใช้กำลังถึงขั้นชีวิตอาจใช้ได้เฉพาะเท่าที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในกรณีที่ต้องป้องกันชีวิตเท่านั้น กรณีที่เป็นเหตุให้เกิดการเสียชีวิตหรืออาการบาดเจ็บร้ายแรง ควรมีการจัดทำรายงานอย่างละเอียดและส่งมอบให้กับหน่วยงานที่มีอำนาจซึ่งรับผิดชอบต่อการตรวจสอบของฝ่ายบริหารและการควบคุมดูแลของฝ่ายตุลาการ

นอกจากนั้น รัฐบาลไทยมีพันธกรณีตามปฏิญญาสหประชาชาติว่าด้วยผู้พิทักษ์สิทธิมนุษยชน (UN Declaration on Human Rights Defenders) ที่จะต้องประกันว่าบุคคลหรือกลุ่มบุคคลซึ่งทำงานปกป้องและส่งเสริมสิทธิมนุษยชน ต้องสามารถทำงานในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเกื้อหนุน

เป็นเวลานานมาแล้วที่กองทัพไทยมักบอกปัดข้อกล่าวหาว่า มีการปฏิบัติมิชอบอย่างร้ายแรงโดยเจ้าหน้าที่ทหารของตน ฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าว แม้ที่ผ่านมาจะมีข้อร้องเรียนหลายครั้งเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยเจ้าหน้าที่ทหารและกองกำลังที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกองทัพในระหว่างปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด แต่กองทัพบกมักไม่ดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่ทหารสำหรับความผิดเหล่านั้น

ฮิวแมนไรท์วอทช์ได้จัดทำข้อมูลวิสามัญฆาตกรรมและการละเมิด​สิทธิมนุษยชนที่รุนแรงหลายกรณี ซึ่งเกิดขึ้นในระหว่าง “สงครามปราบปรามยาเสพติด” ในยุคนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ระหว่างปี 2546 และ 2547 ปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดซึ่งเป็นการปฏิบัติมิชอบของเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจยังคงเกิดขึ้นต่อไปในประเทศไทย ภายใต้รัฐบาลอื่น ๆ ภายหลังรัฐบาลของทักษิณซึ่งถูกยึดอำนาจโดยการทำรัฐประหารของกองทัพเมื่อปี 2549 ผู้ถูกสังหารหลายคนเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ในจังหวัดทางภาคเหนือ ซึ่งมักมีข้อพิพาทกับเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่น เป็นเหตุให้พวกเขาถูกขึ้นบัญชีดำว่าเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีค้ายาเสพติด หลายคนถูกสังหารที่ด่านตรวจ หรือถูกสังหารไม่นานหลังจากกลับจากการถูกเรียกตัวให้ไปรายงานตัวที่ฐานทัพหรือโรงพักในพื้นที่เพื่อสอบปากคำ

ข้อค้นพบของฮิวแมนไรท์วอทช์สอดคล้องกับรายงานของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบ ศึกษา และวิเคราะห์ การกำหนดนโยบายปราบปรามยาเสพติดให้โทษและการนำนโยบายไปปฏิบัติจนเกิดความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ชื่อเสียง และทรัพย์สินของประชาชน (คตน.)ซึ่งมีนายคณิต ณ นคร อดีตอัยการสูงสุดเป็นประธาน และรายงานของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)

รัฐบาลควรสั่งการโดยทันทีให้กรมสอบสวนคดีพิเศษสอบสวนการเสียชีวิตของชัยภูมิ และร้องขอให้กสม.เข้ามาสอบสวนกรณีนี้ ฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าว ฮิวแมนไรท์วอทช์ยังกระตุ้นรัฐบาลให้ประกันความปลอดภัยของพยานในคดีนี้ รวมทั้งความปลอดภัยของพงศนัย ซึ่งเป็นคนขับรถ และปัจจุบันถูกควบคุมตัวที่เรือนจำแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่

“เจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติมิชอบมักจะอ้างปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด เพื่อปกปิดการทำร้ายนักกิจกรรมที่เปิดโปงการทำผิดของเจ้าหน้าที่ หรือนักกิจกรรมที่ปกป้องสิทธิของชนกลุ่มน้อย” อดัมส์กล่าว “ชนชาติพันธุ์กลุ่มน้อยของไทยจะยังไม่ได้รับความเท่าเทียมอย่างเต็มที่ ตราบที่ผู้ซึ่งทำงานปกป้องพวกเขายังต้องปฏิบัติงานด้วยความเสี่ยงทุกวัน และตราบที่ยังไม่มีการสอบสวนการสังหารที่เกิดขึ้นเช่นนี้อย่างเหมาะสม” 

GIVING TUESDAY MATCH EXTENDED:

Did you miss Giving Tuesday? Our special 3X match has been EXTENDED through Friday at midnight. Your gift will now go three times further to help HRW investigate violations, expose what's happening on the ground and push for change.
Region / Country